เช็คได้เลย กระทรวงเกษตรฯ ออกประกาศกำหนดเขตทะเลชายฝั่งสำหรับการทำประมงฉบับใหม่เป็นรายจังหวัด รวม 23 จังหวัดที่ติดชายทะเล มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หวังบรรเทาความเดือดร้อนและลดความขัดแย้งระหว่างประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ โดยเฉพาะในพื้นที่ 9 จังหวัดที่มีลักษณะชายฝั่งเป็นเส้นโค้งเว้า
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตามที่กรมประมงได้ดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง โดยยกเลิกฉบับเดิมทั้งหมด และออกกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง ฉบับใหม่เป็นรายจังหวัด จำนวน 23 จังหวัดชายทะเล รวมแล้วเป็น 23 ฉบับ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ซึ่งข้อกำหนดในกฎหมายแต่ละฉบับได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแต่ละพื้นที่และผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดเรียบร้อยแล้ว
สำหรับกฎกระทรวงฉบับใหม่นี้ อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 บัญญัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดให้เขตทะเลชายฝั่ง โดยกำหนดให้ในบริเวณใด มีระยะจากแนวชายฝั่งทะเลออกไปน้อยกว่าหรือมากกว่าสามไมล์ทะเลก็ได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1.5 าไมล์ทะเลและไม่เกิน 12 ไมล์ทะเล จึงมีการกำหนดให้เขตทะเลชายฝั่งเป็นเส้นตรงลากผ่านจุดพิกัดทำให้ชาวประมงเดินเรือได้ง่ายและพนักงานเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้ชัดเจนด้วย
ในกรณีที่เป็นพื้นที่เขตทะเลชายฝั่งทับซ้อนกับเขตอุทยานแห่งชาติหรือเขตที่กำหนดตามกฎหมายอื่นใด ให้ชาวประมงที่ทำการประมงหรือการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในเขตทะเลชายฝั่ง ต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ให้ครบถ้วนด้วย ซึ่งบัดนี้ กฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่งแยกเป็นรายจังหวัด ทั้ง 23 จังหวัด ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 และมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องชาวประมงเพื่อทราบโดยทั่วกัน และให้ยกเลิก กฎกระทรวงกำหนดเขตทะลชายฝั่งฉบับเก่า คือ ฉบับ พ.ศ. 2560 / พ.ศ. 2563 (ฉบับที่ 2 และ 3)ทั้งนี้ก่อนกฎกระทรวงฯ ทั้ง 23 ฉบับ จะมีผลใช้บังคับเขตทะเลชายฝั่งตามพระราชกำหนดการประมง 2558 กำหนดให้เขตทะเลชายฝั่งมีระยะนับจากแนวชายฝั่งทะเลออกไปสามไมล์ทะเล (ตามมาตรา 5) และ เขตทะเลชายฝั่งตามกฎกระทรวงที่กำหนดให้เขตทะเลชายฝั่ง แต่เนื่องจากบางจังหวัดมีเขตทะเลชายฝั่ง ที่มีลักษณะเป็นเส้นโค้งเว้า ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนของพื้นที่ทำการประมง ส่งผลให้ชาวประมงได้รับความเดือดร้อน เกิดความขัดแย้งระหว่างประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ เนื่องจากการเข้าไปทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่งโดยไม่ตั้งใจ และยังขาดการมีส่วนร่วมในการกำหนดเขตอย่างแท้จริง
ดังนั้นกฎกระทรวงฯ ใหม่ทั้ง 23 ฉบับ จึงกำหนดเป็นรายจังหวัด และเพื่อให้ง่ายต่อการทำการอาชีพประมงทั้งประมงชายฝั่งและการประมงเชิงพาณิชย์เข้าในในทางเดียวกันจึงกำหนดเป็นเส้นตรง ทำให้มีระยะนับจากแนวชายฝั่งทะเลออกไปบางจพื้นที่อาจน้อยกว่า หรือมากกว่า 3 ไมล์ทะเล มีอยู่จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ ชลบุรี ตรัง ตราด พังงา ภูเก็ต ระนอง สตูล และสุราษฎร์ธานี ส่วนอีก 14 จังหวัดเป็นไปตามกำหนดคือห่างจากชายฝั่ง 3 ไมล์ทะเลสำหรับเรือประมงพาณิชย์
“กรมประมงจึงเชื่อมั่นว่า กฎกระทรวงฉบับใหม่รายจังหวัด ทั้ง 23 ฉบับนี้ จะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ อีกทั้ง การกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง มิใช่เพียงแค่แก้ไขความขัดแย้งของชาวประมงเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อการบริหารจัดการทรัพยากรในแต่ละพื้นที่ภายใต้บริบทของวิถีการทำประมงในพื้นที่นั้นๆ เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เน้นย้ำในการแก้ไขปัญหาความไม่ชัดเจนของเขตทะเลชายฝั่ง และการบริหารจัดการการทำประมงให้เกิดความยั่งยืนควบคู่ไปกับความมั่นคงในการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องชาวประมง” นายเฉลิมชัย กล่าว