มีศักดิ์ ภักดีคง
กรมประมงวางกรอบ 8 แนวทาง เพื่อเปิดช่องทางกระจายสินค้าสัตว์น้า หวังช่วยเหลือเกษรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ทั้งประสาน โมเดิร์นเทรด สะพานปลา ห้องเย็น พร้อมสั่งการประมงจังหวัดทั่วประเทศ เปิดตลาดขาย “กุ้ง” ทั่วประเทศ เผยล่าสุดหารือตลาดไท ใช้พื้นที่กว่า 2,300 ตารางเมตร เปิดให้เป็นโซนจ้าหน่ายสินค้าสัตว์น้้า ปลอดภัย ช่วยเหลือเกษตรกร
นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) รอบใหม่ ส่งผลกระทบต่อการจ้าหน่ายสินค้าสัตว์น้้า และการประกอบอาชีพของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้้า ชาวประมง และอุตสาหกรรมต่อเนื่องเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์จังหวัดสมุทรสาคร เป็นเวลา ไม่น้อยกว่า 14 วัน
เนื่องจากจังหวัดสมุทรสาครเป็นแหล่งการค้าสินค้าประมงที่สาคัญของประเทศ ครอบคลุมทั้งตลาดกลาง และกิจการห้องเย็นที่กระจายสินค้าจาหน่ายเข้าสู่ตลาดภายในประเทศและการส่งออก โดยเฉพาะสินค้ากุ้งทะเล จะถูกจาหน่ายไปยังโรงงานแปรรูป (ร้อยละ 80) และการเข้าสู่การซื้อขายที่ตลาดภายในประเทศ โดยเฉพาะตลาดที่มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร (ร้อยละ 20) คาดการณ์ปริมาณผลผลิตกุ้งทะเล รวม 2 เดือน ตั้งแต่มกราคม กุมภาพันธ์ 2564 มีปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดอีกราว 33,000 ตัน นอกจากนี้ ในส่วนของกุ้งก้ามกราม ยังได้มีการคาดการณ์ตัวเลขผลผลิตในช่วงเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งจะมีปริมาณอีกกว่า 8,000 ตัน
ดังนั้น กรมประมงจะต้องเร่งดาเนินการมาตรการเร่งด่วนเพื่อระบายสินค้าทั้ง 2 ชนิด ออกสู่ตลาดและช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร่งด่วนเพื่อป้องกันการเสียหายที่จะเกิดขึ้นตามมาโดยขณะนี้ ด้วยการกำหนดแนวทางในการกระจายผลผลิตกุ้งและสินค้าสัตว์น้้า ดังนี้ 1. เปิดสถานที่ให้เกษตรกรน้ากุ้งมาจ้าหน่ายโดยตรงแก่ผู้บริโภค พร้อมทั้งเปิดจ้าหน่ายออนไลน์ผ่านทาง Fisheries Shop ของกรมประมง, 2. มอบหมายให้ประมงจังหวัดทั่วประเทศ น้าผลผลิตสัตว์น้้ามาจัดจ้าหน่ายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งขณะนี้มีการน้าร่องจ้าหน่ายกุ้งก้ามกรามในพื้นที่จังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรีแล้ว ซี่งมีประชาชนให้ความสนใจมาเลือกซื้อกุ้งเป็นจ้านวนมาก
3. ขอความร่วมมือห้องเย็นโรงงานแปรรูปในการรับซื้อกุ้งทะเล, 4.ประสานความร่วมมือกับกรมการค้าภายในน้าสินค้าปลอดภัยมาจ้าหน่ายใน Modern Trade ต่างๆ เช่น บริษัท สยามแม็คโคร จากัด เพื่อกระจายสินค้า,5. ประสานความร่วมมือในการหาตลาดใหม่ๆ ในการกระจายสินค้าสัตว์น้้า เช่น ตลาดไท
6. ประสานความร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) ในการจ้าหน่ายสินค้าผ่านทาง Call Center และเว็บไซต์,www.ohlalashopping.com, 7. ประสานความร่วมมือกับกองทัพบก ในการรับซื้อกุ้ง เพื่อน้าไปเป็นอาหารให้กับก้าลังพล, และ 8. ประสานความร่วมมือกับกรมอนามัยในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และเป็นแหล่งจ้าหน่ายกุ้ง นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายภาคส่วนที่ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในการช่วยกระจายกุ้งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอีกด้วย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 กรมประมงได้มีการประชุมหารือร่วมกับตลาดไท นำโดยนายโอฬาร พิทักษ์ ที่ปรึกษาตลาดไท และ นายโชคชัย คลศรีชัย กรรมการผู้จัดการฯ เพื่อเตรียมหาตลาดอาหารทะเลแหล่งใหม่รองรับและกระจายสินค้าสัตว์น้้า โดยจะมีการพัฒนาพื้นที่กว่า 2,300 ตารางเมตร เปิดให้เป็นโซนจ้าหน่ายสินค้าสัตว์น้้า ปลอดภัยช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการจ้าหน่ายสินค้าสัตว์น้้าในภาวะวิกฤต COVID–19 ซึ่งจะเปิดให้เกษตรกรที่เดือดร้อนไม่มีช่องทางการขายสินค้ามาจ้าหน่ายได้ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นเกษตรกรที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP จากกรมประมง
ส่วนสถานที่ทางตลาดไท ได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID–19 ทั้งในเรื่องของการเฝ้าระวังตรวจวัดอุณหภูมิให้กับทั้งค้าและผู้ขายในทุกจุดทั่วตลาดไท และยังมีการสุ่มตรวจ SWAP กับผู้ค้าในพื้นที่ ตลอดจน การหยุดการจ้าหน่ายสินค้าที่มาจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคอีกด้วย คาดว่าจะเริ่มด้าเนินการกระจายและจ้าหน่ายสินค้ากุ้งและสัตว์น้้าอื่นๆ ได้ภายในเดือนมกราคม 2564 และในอนาคตจะร่วมกันพัฒนาให้เป็นตลาดสัตว์น้้ายุคใหม่ ตลาดกลางสินค้าสัตว์น้้าที่ได้มาตรฐาน ถูกสุขอนามัย สินค้าคุณภาพปลอดภัย เกษตรกรจ้าหน่ายเอง
ในส่วนของการตื่นตระหนกต่อการบริโภคกุ้งในขณะนี้ กรมประมงเชื่อมั่นว่าคลายลงแล้ว และประชาชนผู้บริโภครับรู้รับทราบถึงข้อมูลที่ถูกต้องว่า กุ้ง และ สินค้าสัตว์น้้า ไม่ได้เป็นพาหะของโรคโควิด–19 อย่างแน่นอน แต่การปนเปื้อนของเชื้อไวรัสนั้น อาจเกิดขึ้นได้จากการขาดสุขอนามัยที่ดี ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการรับประทานและสัมผัสสัตว์น้้า จึงขอให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสัตว์น้้าและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและผ่านการผลิตที่มีมาตรฐาน เน้นให้ความใส่ใจในเรื่องสุขอนามัยเป็นส้าคัญ