ก.เกษตรฯเดินหน้าขับเคลื่อนภาคประมงให้เข้าถึงแหล่งทุน ใช้เทคโนโลยีให้เกิดความยั่งยืน

  •  
  •  
  •  
  •  

“เฉลิมชัย” ประกาศชัดเจนในวันสถาปนากรมประมงปีที่ 93 กรมประมง พร้อมที่จะยืนหยัด เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนภาคการประมงของไทยให้เกิดความยั่งยืน บนพื้นฐานที่ต้องรักษาทรัพยากรและความถูกต้องตามกฎหมาย เน้นให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน นำเทคโนโลยี และนวัตกรรมจากภูมิปัญญามาเพิ่มมูลค่า ให้เกิดการเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ ลดต้นทุน ลดอุปสรรคในการประกอบอาชีพ สร้างจุดแข็งให้สินค้าประมงไทย สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ขณะที่กรมประมงครบรอบ 93 ปี ปล่อยสัตว์สู่ธรรมชาติ 4 แห่งเกือบ 2 ล้านต้ว

        นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน“วันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2562” เนื่องในวันสถาปนากรมประมงปีที่ 93  ณ กรมประมง ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง ได้จัดงานวันสถาปนากรมประมงปีที่ 93 และ “วันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2562” โดยได้ให้สำคัญและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาภาคการประมงของประเทศให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับเกษตรกรชาวประมงและประชาชนมาโดยตลอด

      จนปัจจุบันภาคการประมงของไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างมาก ทั้งการทำประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการแปรูปสัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น ๆ เนื่องจากกรมประมงได้ทำการปฏิรูปภาคการประมงทั้งระบบ เช่น การปรับปรุงกฎหมายประมงเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน การสร้างความเข้มแข็งในการบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ การบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศเพื่อการป้องกันการทำการประมงผิดกฎหมาย การตรวจสอบย้อนกลับสินค้าประมงตลอดสายการผลิต รวมถึงการผลักดันงานวิจัยของนักวิชาการให้สามารถนำไปต่อยอดเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง

                                                                            เฉลิมชัย ศรีอ่อน

       อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ มีแนวทางที่จะขับเคลื่อนนโยบาย โดยเน้นฟื้นฟูและสนับสนุนอาชีพการทำประมง ให้เกิดความยั่งยืนบนพื้นฐานของการรักษาทรัพยากรและความถูกต้องตามกฎหมาย ส่งเสริมการรวมกลุ่ม สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ลดต้นทุน ลดอุปสรรคในการประกอบอาชีพ รวมถึงส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากภูมิปัญญามาเพิ่มมูลค่า เพื่อสร้างจุดแข็งให้สินค้าประมงไทย สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

        ด้านนายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำออนไลน์ใน 4 พื้นที่ ประกอบด้วย 1) บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ 2) กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา 3) หนองหาร จังหวัดสกลนคร และ 4) อ่าวประจวบฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,930,000 ตัว สำหรับพันธุ์ปลาที่ใช้ปล่อย ประกอบด้วย ปลาพวง ปลายี่สกเทศ ปลาตะเพียน ปลานวลจันทร์ ปลาสร้อยขาว ปลาหมอ ปลาสลิด ปลากาดำ ปลาสวาย ปลากะพง กุ้งก้ามกราม และกุ้งกุลาดำ

         นอกจากนี้ ยังมีพิธีการมอบรางวัลประกวดออกแบบสัญลักษณ์ (Logo) และรางวัลภาพถ่าย “ปลากัดไทย (Siamese Fighting Fish) : สัตว์น้ำประจำชาติ” รวมถึงการมอบโล่/รางวัลให้กับผู้ทำคุณประโยชน์ต่อวงการประมงไทย อาทิ เกษตรกรดีเด่น เกษตรกรแปลงใหญ่ดีเด่น ข้าราชการดีเด่น รางวัลโครงการธนาคารสินค้าเกษตร (ธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม) รางวัลกลุ่มเกษตรกรได้รับมาตรฐานการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด รางวัล Smart PIPO งานวิจัยวิชาการประมงดีเด่น/ชมเชย และการประกาศเกียรติคุณให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมประมงผู้เกษียณอายุซึ่งมีคุณูประการต่อกรมประมงด้วย

         ” ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 93 กรมประมงจะยังคงยืนหยัดเพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนภาคการประมงของไทยเพื่อให้เกษตรกร ชาวประมง และประชาชนในประเทศได้มีทรัพยากรสัตว์น้ำไว้ใช้อย่างยั่งยืนต่อไป” นายอดิศร กล่าว