“อัครา” เล็งชง ครม.การแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ

  •  
  •  
  •  
  •  

“อัครา” เตรียมชง ครม.พิจารณาแผนปฏิบัติการเพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ ล่าสุดคณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ เห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการเพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ พ.ศ. 2568 – 2572 มี 11 มาตรการดังนี้

วันที่ 20 กุมภาพันธ์  2568 มีการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp Board) ครั้งที่ 2/2568  ณ ห้องประชุมพะยูน อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง โดยมี นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธนสาร ธรรมสอน ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง  ผู้บริหารกรมประมง ผู้แทนจากผู้ประกอบการ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิจารณาหารือแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกุ้งทะเลของไทยให้กลับมาทวงความเป็นผู้นำในการส่งออกอีกครั้ง

นายอัครา กล่าวภายหลังการประชุมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งขับเคลื่อนผลักดันแผนปฏิบัติการเพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ พ.ศ. 2568 – 2572 ผ่านการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ (ร่าง) แผนปฏิบัติการเพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ พ.ศ. 2568 – 2572 ซึ่งประกอบด้วย 11 มาตรการดังนี้

มาตรการที่ 1 การพัฒนาพ่อแม่พันธุ์ให้เหมาะสมกับการเลี้ยงกุ้งทะเลเพื่อให้ได้ลูกกุ้งทะเลคุณภาพสูง มาตรการที่ 2 การจัดการฟาร์มเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืน มาตรการที่ 3 การส่งเสริมการใช้อาหารที่เหมาะกับรูปแบบการเลี้ยง มาตรการที่ 4 การจัดการโรคและการป้องกันโรคในกุ้ง มาตรการที่ 5 การพัฒนาระบบเฝ้าระวังติดตาม ตรวจสอบ ความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล มาตรการที่ 6 การเพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์สินค้าหลังการจับ มาตรการที่ 7 การสร้างแบรนด์และเพิ่มช่องทางการตลาด มาตรการที่ 8 การบริหารจัดการข้อมูลกุ้ง มาตรการที่ 9 การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม มาตรการที่ 10 การยกระดับความรู้บุคลากร ทั้งเกษตรกร และเจ้าหน้าที่ และ มาตรการที่ 11 การสร้างเครือข่าย ความเข้มแข็ง ซึ่งทุกมาตรการมีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยยังคงคำนึงถึงสถานการณ์อุปสงค์อุปทานกุ้งทะเลของโลกเป็นสำคัญ

สำหรับระยะเร่งด่วนในปี 2568 จะมุ่งให้ความสำคัญกับการดำเนินการมาตรการที่ 1 ซึ่งจะเป็นการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์กุ้งทะเลให้เจริญเติบโตดี และทนทานต่อเชื้อก่อโรค โดยส่งเสริมการใช้สายพันธุ์กุ้งทะเลที่เหมาะสมกับสถานการณ์ภายในประเทศ มาตรการที่ 2 หนุนการจัดการฟาร์มกุ้งอย่างยั่งยืน โดยเน้นการจัดตั้งศูนย์ผลิตจุลินทรีย์ มาตรการที่ 3 ส่งเสริมการใช้อาหารที่เหมาะสมกับรูปแบบการเลี้ยง โดยจะสามารถลดได้ทั้งต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

มาตรการที่ 4 การแก้ไขปัญหาเรื่องโรค ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในการเลี้ยงกุ้งของเกษตรกร โดยการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพ พร้อมนำนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้บริหารจัดการทั้งโรงเพาะฟักและฟาร์มเลี้ยง และมาตรการที่ 5 พัฒนาระบบเฝ้าระวังติดตามตรวจสอบความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังเชิงรุก ตั้งแต่แหล่งผลิตจนถึงแหล่งแปรรูปผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยให้การแก้ไขปัญหากุ้งทะเลของประเทศไทยเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเร่งผลักดันแผนปฏิบัติการเพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลเป็นวาระแห่งชาติ พ.ศ. 2568 – 2572 ให้พร้อมสู่การปฏิบัติได้โดยเร็วที่สุด เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการกุ้งทะเลในทุกห่วงโซ่อุปทานให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และพร้อมที่จะกลับมาเป็นผู้นำการส่งออกในอันดับต้น ๆ ของโลกอีกครั้ง