จับอีก!! สินค้าเกษตรผิด กม. รอบนี้ ฉก.พญานาคราช รวบมะพร้าวเถื่อน 43 ตัน มูลค่า 2.4 ล้านบาท อโวคาโดอีก 8 ตันที่สอยดาว

  •  
  •  
  •  
  •  

 

สินค้าเกษตรเกษตรผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านขนมาขายในไทยอย่างคึก ล่าสุด “ฉก.พญานาคราช” ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชจันทบุรี กรมวิชาการเกษตร  จับมะพร้าวเถื่อน 43 ตัน มูลค่า 2.4 ล้านบาท และอโวคาโดอีก 8 ตัน มูลค่า8 แสนบาทในพื้นที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี

กรมวิชาการเกษตร รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568  พันเอก รวิรักษ์ สัตตบุศย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช นำทีม “ฉก.พญานาคราช” พร้อมด้วย พ.ต.อ. สราวุฒิ ปรีดาภรณ์ พ.ต.ท. อนันต์ กาวสันเทียะ และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชจันทบุรี กรมวิชาการเกษตร ร่วมจับกุมการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยได้รับเบาะแสว่าจะมีการลักลอบขนมะพร้าวเถื่อนเข้ามาในบริเวณตำบลสะตอน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ห่างจากจุดพรหมแดนระหว่างไทย-กัมพูชา 460 เมตร

จากนั้น จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนไทยและกัมพูชา ซึ่งต่อมาพบรถยนต์บรรทุกป้ายทะเบียนกัมพูชาต้องสงสัยแล่นเข้ามาในพื้นที่ และได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะมีคนไทยมารอรับซื้อบริเวณโกดัง ด่านสวนส้ม อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ทั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบมะพร้าวที่บรรทุกมาในรถ พบผู้ต้องสงสัยเป็นชาวกัมพูชาแสดงตนเป็นผู้ขับขี่ จำนวน 2 ราย กำลังขนถ่ายมะพร้าวจากรถบรรทุกป้ายทะเบียนกัมพูชา ไปยังรถกะบะบรรทุกป้ายทะเบียนไทย พบของกลางเป็นมะพร้าว จำนวนทั้งสิ้น 43,000 กิโลกรัม มูลค่า 2.4 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสิ่งต้องห้ามมิให้นำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงดำเนินการเข้าจับกุมตัวพร้อมนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะตอน ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 เวลา 00.10 น. “ฉก.พญานาคราช” ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชจันทบุรี เดินหน้าจับกุมการลักลอบนำเข้าอโวคาโดเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ซึ่งจัดเป็นสิ่งต้องห้ามตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบนำสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย เข้ามายังบริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องทางซับตารี จุดพรหมแดนระหว่างไทยกัมพูชา ตำบลสะตอน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่รุดเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบรถยนต์กะบะลูกกรง จำนวน 2 คัน กำลังเคลื่อนตัวผ่านจุดชายแดนไทยกัมพูชา

เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวส่งสัญญาณให้หยุดรถ เพื่อทำการตรวจสอบแหล่งที่มาของพืชชนิดที่บรรทุกมา โดยผู้ต้องหารายแรกหยุดรถจึงพบว่าได้บรรทุกอโวคาโดที่ไม่สามารถแสดงเเหล่งที่มาได้ และไม่มีเอกสารใบรับรองสุขอนามัยพืชกำกับมาด้วย จึงทำการตรวจยึด ในส่วนรถยนต์กะบะลูกกรงอีกคันนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวและส่งสัญญาณให้หยุด รถยนต์กะบะลูกกรงมีความพยายามเร่งเครื่องหนี จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องไล่ล่าติดตามเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร

ในที่สุดไปพบกับจุดสะกัดของด่านกักกันสัตว์จันทบุรี รถยนต์กะบะลูกกรงคันดังกล่าวจึงหยุดรถให้ตรวจสอบ แต่ไม่สามารถแสดงเเหล่งที่มาของอโวคาโดได้เช่นกัน และไม่มีเอกสารใบรับรองสุขอนามัยพืชกำกับมาด้วย จึงทำการตรวจยึดรถยนต์กะบะลูกกรงทั้ง 2 คัน ซึ่งมีน้ำหนักรวม 8,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 800,000 บาท ผู้ต้องหา 2 คน โดยแจ้งข้อกล่าวหานำเข้าอโวคาโด ซึ่งเป็นสินค้าต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะตอน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรีต่อไป