กรมประมงเปิดตัวแอปพลิเคชัน “Fisheries Next” อำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของเรือประมงพาณิชย์ที่ติดตั้งระบบติดตามเรือประมง (VMS) ในการติดตาม เฝ้าระวัง ตรวจสอบ และยื่นคำร้องเกี่ยวกับเรือประมงของตนเอง เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการติดต่อประสานงานโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ไม่พลาดทุกการแจ้งเตือนสำคัญ รวม ครบ จบในแอปฯ เดียว สามารถใช้งานได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ !
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเสริมศักยภาพชาวประมงพาณิชย์ในการทำการประมงทะเลที่ยั่งยืน ณ ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการทำการประมง (FMC) กรมประมง ว่า นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรประมงเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าถึงผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำของไทยว่าไม่ได้มาจากการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ IUU Fishing พร้อมเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้ประกอบการและชาวประมงอย่างรอบด้าน
บัญชา สุขแก้ว
กรมประมงจึงได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน “Fisheries Next” ขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของเรือประมงพาณิชย์หรือผู้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ที่ติดตั้งระบบติดตามเรือ (VMS) สามารถยื่นคำร้องผ่านระบบออนไลน์และติดตามสถานะของเอกสารด้วยตนเองได้ตลอดเวลา รวมไปถึงเชื่อมโยงกับระบบติดตามเรือให้มีการแจ้งเตือนแบบทันท่วงทีเมื่อเรือมีความเสี่ยงในการทำประมงผิดกฎหมาย อาทิ การแจ้งเตือนเมื่อสัญญาณเรือขาดหาย การแจ้งเตือนการทำประมงใน Buffer Zone การแจ้งเตือนเมื่อใกล้ครบกำหนดการขอปิดสัญญาณ เป็นต้น และรวบรวมทุกข้อมูลสำคัญของเรือประมง ทั้งข้อมูลเรือประมง วันทำการประมง สถิติการจับสัตว์น้ำ รวมถึง การค้นหาศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออก เรือประมง (PIPO) ที่ใกล้เคียง เพื่อลดความยุ่งยากในการดำเนินการทางเอกสาร และลดขั้นตอนการปฏิบัติงานให้แก่เจ้าหน้าที่ สามารถติดตาม ควบคุม และเฝ้าระวังการทำการประมงผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับเจ้าของเรือประมงพาณิชย์หรือผู้รับใบอนุญาตที่ต้องการเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน “Fisheries Next” ในเบื้องต้น สามารถดาวน์โหลดได้ทาง App Store หรือ Play Store และลงทะเบียนเข้าใช้งานด้วยหมายเลขบัตรประชาชนหรือหมายเลขประจำตัวนิติบุคคล และเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนในการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงล่าสุด เพื่อขอรับรหัส OTP ในการเข้าสู่ระบบ และสามารถเข้าใช้งานได้ทันที โดยในแอปพลิเคชันมีเมนูต่าง ๆ ประกอบด้วย
1. เรือประมง : เจ้าของเรือสามารถติดตาม ตรวจสอบ และเฝ้าระวังการทำประมงของเรือในครอบครองที่ลงทะเบียนไว้ โดยจะมีการแจ้งพิกัดตำแหน่งเรือปัจจุบัน เส้นทางการเดินเรือย้อนหลัง ฯลฯ กรณีมีเรือประมงในความครอบครองหลายลำ สามารถเพิ่มข้อมูลเรือประมงและเรียกดูประวัติเรือผ่านแอปพลิเคชันได้ทุกลำ,2. ยื่นคำร้อง : ผู้ใช้งานสามารถยื่นคำร้องเกี่ยวกับเรือประมงผ่านระบบออนไลน์และติดตามสถานะคำร้องได้ด้วยตนเองตลอดเวลา เช่น คำร้องขอติดตั้งอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือ (ศฝป.1) คำร้องขอปิดสัญญาณอุปกรณ์ระบุตำแหน่งชั่วคราว (ศฝป.4) คำร้องรายงานสัญญาณระบบติดตามเรือขาดหาย (ศฝป.7) และคำร้องขอตัดอุปกรณ์ล็อคตรึงและตีตราอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือ (ศจร.4) เป็นต้น
3. ข่าวสาร : อัพเดททุกข่าวสารใหม่จากกรมประมง และตรวจสอบสภาพอากาศรายวันก่อนทำการประมงได้,4. วันทำการประมง : แสดงจำนวนวันทำการประมงคงเหลือของเรือแต่ละลำ และจะมีการแจ้งเตือนเมื่อวันทำการประมงคงเหลือน้อยกว่า 30 วัน,5. สถิติการจับสัตว์น้ำ : สามารถเรียกดูสถิติการจับสัตว์น้ำ ประวัติการจับสัตว์น้ำย้อนหลังของแต่ละรอบการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงแต่ละลำ และสามารถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้สูงสุดถึง 5 ปี,6. การติดต่อสื่อสาร : สามารถติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่กรมประมงได้โดยตรงผ่านแอปพลิเคชัน
แฟ้มภาพ
7. ค้นหาศูนย์ PIPO : แสดงข้อมูลศูนย์ PIPO โดยแสดงรายละเอียดที่อยู่ พิกัดตำแหน่ง และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ, 8. การแจ้งเตือนต่าง ๆ : ผู้ใช้งานจะได้รับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์แม้ไม่ได้เปิดการแจ้งเตือน ไม่พลาดทุกข่าวสารใหม่ การแจ้งเตือนเมื่อสัญญาณเรือขาดหาย การแจ้งเตือนเมื่อทำการประมงในเขต Buffer Zone การแจ้งเตือนเมื่อใกล้ครบกำหนดการขอปิดสัญญาณ การติดตามการพิจารณาแบบคำร้อง ฯลฯ
ทั้งนี้ หากพบปัญหาในการใช้งานสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการทำการประมง (FMC) เบอร์โทรศัพท์ 0-2561-3132, 0-2561-2296, 0-2561-2297 และ 0-2579-0341 หรือติดต่อผ่าน LINE ID : @114velss
“กรมประมงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแอปพลิเคชัน “Fisheries Next” นี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเสริมสร้างศักยภาพพี่น้องชาวประมงด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้เพื่อพัฒนาการทำประมงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมประมงไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลกและก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการประมงทะเลที่ยั่งยืนในอนาคต”…อธิบดีกรมประมง กล่าว