ดลมนัส กาเจ
Kaguta Museveni (รูปจาก : themomentum.co)
เป็นข้อความที่ส่งมาผ่านทางไลน์ ที่ส่งกันต่อๆ ที่ส่งมาถึงผมนั้นไม่มีชื่อผู้แปล อ่านแล้วกินใจมาก และเห็นภาพชัดเจน อ้างว่า เป็นคำแถลงของประธานาธิบดีสาธารณรัฐยูกันดา “นายโยเวรี คากูทา มูเซเวนี” (Mr. Yoweri Kaguta Museveni)เตือนคนที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมในช่วงระยะเวลา COVID-19 ถือเป็นสุนทรพจน์สาธารณะที่ดีที่สุดและชาญฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีระหว่าง Covid-19 ยกย่องเขาเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ จึงขออนุญาตเผยแพร่ต่อ เนื่องจากเป็นการเตือนและเปรียบเทียบ ที่สมเหตุสมผลที่สุด ในยุคนี้ครับ
#ด้านล่างเป็นคำแถลงการณ์ของเขา
ในสถานการณ์สงคราม ไม่มีใครขอให้ใครอยู่ในบ้าน #คุณเลือกอยู่ข้างในโดยตัวคุณเอง* และถ้าคุณมีห้องใต้ดิน คุณก็จะซ่อนตัวอยู่ที่นั่นตราบเท่าที่สงครามยังคงอยู่
ในระหว่างสงคราม คุณ #ไม่เคยเรียกหาอิสรภาพของคุณ * คุณยอมปล่อยมันผ่านไปเพื่อแลกกับการอยู่รอด
ในช่วงสงคราม คุณไม่บ่นเรื่องความหิว #คุณแบกรับความหิวโหยและอธิษฐานขอให้คุณมีชีวิตอยู่เพื่อกินอีกครั้ง
ระหว่างสงคราม คุณ #ไม่เคยเรียกร้องกับการเปิดธุรกิจของคุณ * คุณปิดร้านค้าของคุณ (ถ้าคุณมีเวลา) และวิ่งหนีเพื่อชีวิตของคุณ คุณสวดภาวนาเพื่อให้อยู่รอดในสงครามเพื่อที่คุณจะได้กลับไปทำธุรกิจของคุณ (นั่นคือถ้ามันไม่ได้ถูกปล้นหรือทำลายด้วยระเบิด)
ระหว่างสงคราม คุณ #รู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่ได้เห็นวันใหม่ในดินแดนแห่งชีวิต *
ในช่วงสงคราม คุณ #ไม่กังวลกับการที่ลูกๆของคุณไม่ไปโรงเรียน * คุณภาวนาให้รัฐบาลไม่บังคับกะเกณฑ์ให้เป็นเหมือนทหารที่ได้รับการฝึกฝนในสถานศึกษาที่ตอนนี้กลายเป็นค่ายทหาร
โลกกำลังอยู่ในภาวะสงคราม สงครามที่ไม่ใช้ปืนและกระสุน สงครามที่ไม่มีทหาร สงครามที่ไร้พรมแดน สงครามที่ไม่มีข้อตกลงหยุดยิง สงครามที่ไม่มีห้องยุทธการ สงครามที่ไม่มีโซนศักดิ์สิทธิ์ *
“กองทัพในสงครามนี้ไม่มีความปราณี มันเป็นสิ่งที่ปราศจากความเมตตา มันไม่เลือกว่าจะเป็นเด็กหรือผู้หญิงหรือศาสนสถาน กองทัพนี้ไม่สนใจผลพวงความเสียหายจากสงคราม มันไม่มีความตั้งใจที่จะปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ไม่สนใจเกี่ยวกับแหล่งแร่ที่อุดมสมบูรณ์ใต้ผืนดิน มันไม่ได้สนใจที่อยากเป็นเป็นเจ้าโลกหรือเรื่องราวทางศาสนาเชื้อชาติหรืออุดมการณ์ ความทะเยอทะยานของมันไม่เกี่ยวอะไรกับเชื้อชาติ* มันเป็นกองทัพล่องหนที่โหดเหี้ยมและทรงประสิทธิภาพ”
สิ่งเดียวที่มันต้องการคือการเก็บเกี่ยวความตาย มันจะหยุดก็ต่อเมื่อทำลายโลกได้เป็นวงกว้างและมันบรรลุวัตถุประสงค์ได้โดยไม่ต้องสงสัย แม้มันจะปราศจากเครื่องจักรสะเทินน้ำสะเทินบกและยานอวกาศ แต่มันมีฐานทัพในเกือบทุกประเทศทั่วโลก การเคลื่อนไหวของมันไม่ได้ควบคุมโดยอนุสัญญาสงครามหรือโปรโตคอลใด ๆ ในระยะสั้น * มันเป็นกฎหมายในตัวเอง มันคือโคโรนาไวรัส ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม COVID-19 * (เพราะมันเริ่มการทำลายล้างในปี 2019)
โชคดีที่กองทัพนี้มีจุดอ่อนและเราสามารถเอาชนะได้ มันต้องการเพียงแค่ความร่วมแรงร่วมใจและความีวินัยและความอดทนของเรา * COVID-19 ไม่สามารถอยู่รอดได้ในการรักษาระยะห่างทางสังคมและกายภาพ
มันจะเติบโตเมื่อคุณอยู่ใกล้ชิดกันเท่านั้น มันชอบการเผชิญหน้า มันจะยอมจำนนต่อสังคมที่มีวินัยและการรักษาระยะห่างทางร่างกาย มันยอมจำนนต่อคนที่มีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี มันทำอะไรคุณไม่ได้เมื่อคุณกำหนดชะตากรรมของคุณด้วยมือของคุณเองโดยรักษาสุขอนามัยให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้
นี่ไม่ใช่เวลาที่จะร้องไห้เเพื่อร้องขออาหารเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง
ท้ายที่สุดพระคัมภีร์ บอกเราว่ามนุษย์เราไม่ใช่อยู่เพื่อกินเพียงอย่างเดียว * เราควรเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ
เรามาทำให้สถิติการติดเชื้อ COVID-19 ลดลง เราต้องมีความอดทน มาเป็นผู้ดูแลพี่น้องของเรากันเถอะ
ในเวลาไม่นานเราจะได้รับอิสรภาพ องค์กรและสังคมตามปกติกลับคืนมา
ในท่ามกลางเหตุฉุกเฉินเราต้องยอมรับมาตรการเร่งด่วนและแบ่งปันความรักต่อผู้อื่น
ขอพระเจ้าอวยพรเราทุกคน