กระทรวงเกษตรฯปลดล็อค!! นำเข้าโคเนื้อ-กระบือจากพม่า ขณะที่ชาวบ้านโอดราคาวัวตกต่ำ

  •  
  •  
  •  
  •  

กระทรวงเกษตรฯ ปลดล็อค การนำเข้าโคเนื้อ-กระบือจากประเทศเมียนมา ย้ำชัด ต้องมีการขึ้นทะเบียนอย่างชัดเจน ภายใต้มาตรการควบคุมที่เข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่าย พร้อมเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาโคเนื้อตกต่ำ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้ออย่างยั่งยืน ล่าสุดเกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ที่ จ.สงขลา สะท้อนถึงราคาวัวของเกษตรกรลดลงกว่า 30% จากเดิมวัวเป็นๆราคา กก.ละ 120 บาท เหลืองเพียงไม่ถึง กก.ละ 90 บาท ขณะที่ราคาเนื้อ กก.ละ 250 บาทเหมือนเดิม

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาโคเนื้อ-กระบือ และผลิตภัณฑ์แห่งชาติ (Beef Board) ครั้งที่ 2/2567 โดยมี นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โดยที่ประชุมได้พิจารณาปลดล็อคการนำเข้าโคเนื้อ-กระบือจากประเทศเมียนมา ซึ่งคณะอนุกรรมการด้านการรักษาตลาดการบริโภคเนื้อโค-กระบือ และผลิตภัณฑ์ ได้มีการจัดประชุมเพื่อศึกษาข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างรอบด้าน ทั้งในเรื่องปริมาณโคเนื้อ ราคาจำหน่ายโคเนื้อ ปริมาณการนำเข้าส่งออกโคเนื้อ ข้อมูลการจับกุมโคเนื้อที่ลักลอบนำเข้าประเทศ ตลอดจนศักยภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้มงวดกวดขันเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่กำหนด

แฟ้มภาพ

ทั้งในเรื่องขั้นตอนการนำเข้าและการเคลื่อนย้าย การติดหมายเลขประจำตัวสัตว์ การฉีดวัคซีน การตรวจโรค การตรวจสารเร่งเนื้อแดง การขึ้นทะเบียนผู้เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่เพื่อการตรวจสอบย้อนกลับตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง การกำหนดโควต้าการนำเข้าและส่งออกให้ชัดเจน มีการขึ้นทะเบียนคอกโคขุนที่ชัดเจน และที่สำคัญต้องไม่กระทบเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อในประเทศ อีกทั้งยังให้มีการแต่งตั้งตณะกรรมการในการตรวจประเมินผลเพื่อติดตามผลการดำเนินงาน และใช้เป็นข้อมูลทบทวนมาตรการการปลดล็อคในครั้งนี้

นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาโคเนื้อตกต่ำ ตามที่คณะอนุกรรมการด้านการรักษาตลาดการบริโภคเนื้อโค-กระบือ นำเสนอมาตรการส่งเสริมการตลาดและการแก้ปัญหาราคาโคเนื้อตกต่ำ คือ 1) มาตรการการแก้ไขการใช้สารเร่งเนื้อแดงตลอดห่วงโซ่การผลิต 2) มาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้าโคเนื้อ เนื้อโค กระบือ และเนื้อกระบือ 3) มาตรการผลักดันการใช้เครื่องหมายประจำตัวสัตว์ประเภทเบอร์หู (NID) เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการสินค้าโคเนื้อ กระบือ ทั้งระบบ 4) มาตรการส่งเสริมการตลาด เพื่อเพิ่มปริมาณการบริโภคและสร้างความสามารถในการแข่งขันเนื้อโคในทุกตลาด และ 5) มาตรการในการนำเข้าและส่งออก โคเนื้อ-กระบือ มีชีวิต รวมทั้ง เนื้อโค-เนื้อกระบือ อีกทั้งยังเห็นชอบแผนการสร้างความมั่นคงด้านอาหารโคเนื้อ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุนการผลิตโคเนื้ออีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จากการที่ “เกษตรทำกิน” ลงพื้นที่ในหลายจังหวัด อย่างที่สงขลา เกษตรกรบอกว่า ทุกวันนี้หลังจากที่ราคายางพาราตกต่ำในช่วงก่อนหน้านี้ชาวบ้านหันมาเลี้ยงวัวเพื่อรายได้เสริมแทบทุกคครัวเรือน ทำให้ราคาตกต่ำลงเป็นอย่างมาก อย่างเดิมทีราคาตัวละ 16,000 บาท เหลือตัวละ 12,000 บาท หรือชั่งกิโลทั้งตัวเดิมราคา กก.ละ 120 บาท ตอนนี้เหลือไม่ถึง กก.ละ 90 บาทขณะที่บนแผงราคาเนื้อวัว กก.ละ 250 บาทเท่าเดิม ชาวบ้านจึงหันมาหุ้นซื้อวัวเป็นๆมาล้มฆ่ากันเองแบ่งเป็นกองๆ เพื่อบริโภคกันเองราคาจะถูกกว่าซื้อในท้องตลาด