ซีพีเอฟ ย้ำ เนื้อไก่ ไข่ไก่ และผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกของไทย ปลอดภัยจากไข้หวัดนก ด้วยระบบ “คอมพาร์ทเม้นท์” (Compartment) มาตรฐานโลกที่สามารถป้องกั นโรคในอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมแนะนำเกษตรกรเฝ้าระวั งและคุมเข้มความปลอดภัยในฟาร์ มสัตว์ปีกอย่างเคร่งครัด ชี้ผู้บริโภคต้องเลือกซื้อจากผู้ ผลิตและแหล่งจำหน่ายมาตรฐาน เน้นปรุงสุกก่อนรับประทานเพื่ อความปลอดภัย
สพ.ญ.ดร.นิอร บุญประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการ หน่วยงานสัตวแพทย์บริการด้านสั ตว์ปีกบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ช่วงนี้ในหลายภูมิภาคของโลกกำลั งประสบปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้ อไวรัสไข้หวัดนก รวมถึงกัมพูชาประเทศเพื่อนบ้ านของไทย อาจทำให้เกิดความกังวลถึ งการแพร่กระจายของโรคนี้ สำหรับอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ ของไทย มีระบบป้องกันไข้หวัดนกในฟาร์ มสัตว์ปีกที่เข้มแข็ง ด้วยการนำระบบ “คอมพาร์ทเม้นท์” (Compartment) การเลี้ยงสัตว์ปีกระบบปิ ดมาตรฐานสากลตามหลักการขององค์ การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (World Organization for Animal Health – WOAH) มาใช้ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน จึงทำให้ไทยปลอดภัยจากโรคไข้หวั ดนก 100% มานานกว่า 16 ปี
ซีพีเอฟ ใช้ระบบคอมพาร์ทเมนท์ ตามมาตรฐานของ WOAH เพื่อป้องกันโรคเชิงรุกขั้นสู งสุด ด้วยหลักการประเมินความเสี่ยง เพื่อกำหนดมาตรการปฏิบัติที่ ตรงจุดของความเสี่ยงการเกิดโรค โดยเชื่อมโยงทั้งห่วงโซ่การผลิ ตตั้งแต่ โรงงานอาหารสัตว์ สู่ฟาร์มและโรงงานแปรรูป นอกจากนี้บริษัทมีการเลี้ยงสั ตว์ในโรงเรือนระบบปิดที่มีการจั ดการสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม ถูกต้องตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ที่ ดี “ไก่ได้อยู่ดีมีความสุข” ช่วยเพิ่มความปลอดภั ยทางอาหารตอบโจทย์สุขภาพหนึ่ งเดียว (One Health)
“องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) ระบุว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนกไม่ได้ติดต่ อสู่มนุษย์ได้ง่าย และความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสฯ ต่อประชากรอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขของไทย ได้แนะนำประชาชนและผู้ ประกอบการว่าไม่ควรตระหนกและไม่ ควรประมาท ต้องเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด จึงอยากให้ประชาชนมั่ นใจในระบบการป้องกั นโรคระบาดของไทยมีความแข็งแกร่ งตามมาตรฐานสากล” สพ.ญ.ดร.นิอร กล่าวย้ำ
นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังส่งเสริมเกษตรกรในโครงการส่ งเสริมอาชีพการเลี้ยงไก่ (Contract Farming) ยกระดับการการป้องกันโรคในฟาร์ มด้วยระบบ “คอมพาร์ทเม้นท์” ควบคู่กับมาตรการติดตามสุขภาพฝู งสัตว์ปีกและเฝ้าระวังโรคอย่ างเข้มงวด เน้นจัดการกับปัจจัยเสี่ยงอย่ างมีประสิทธิภาพ สำหรับเกษตรกรไทยควรมี มาตรการเฝ้าระวังและดูแลฝูงสั ตว์ปีกที่เข้มข้นยิ่งขึ้น (Disease Surveillance System) โดยใช้มาตรการป้องกันโรคตั้งแต่ ต้นทาง มีระบบการเลี้ยง การจัดการที่ถูกต้อง ด้วยระบบการป้องกันโรคที่ดี ตามคำแนะนำของกรมปศุสัตว์และสั ตวแพทย์อย่างเคร่งครัด
กรณีที่เกษตรกรผู้เลี้ยงพบสัตว์ ปีกตายกะทันหัน หรือมีอาการผิดปกติ ต้องแจ้งสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์ มและปศุสัตว์ในพื้นที่โดยเร็ว หากพบการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกผิ ดกฎหมาย โดยเฉพาะพื้นที่เขตชายเดน หรือพบสัตว์ปีกตามธรรมชาติ แสดงอาการป่วยให้รีบแจ้งเจ้าหน้ าที่ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจวินิจฉัยทั นที
สพ.ญ.ดร.นิอร แนะนำว่า สำหรับประชาชนทั่วไป สามารถป้องกันตนเองจากเชื้อไวรั สไข้หวัดนกได้โดยหลีกเลี่ ยงการสัมผัสกับสัตว์ปีกที่ไม่ ทราบประวัติ รวมถึงมูลและสารคัดหลั่ง หรือสัตว์ปีกที่มีอาการหรือสงสั ยว่าป่วย หากเกิดการสัมผัสให้ใช้สบู่ล้ างมือให้สะอาดทันที ส่วนผู้ที่เดินทางกลับจากต่ างประเทศในพื้นที่ที่มี รายงานการระบาดของโรค ควรสังเกตสุขภาพตนเอง หากมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ให้ ไปพบแพทย์โดยเร็ว รวมถึงสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้ องกันการแพร่กระจายของโรค
“การรับประทานเนื้อไก่ เนื้อเป็ด และสัตว์ปีก ผู้บริโภคควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ จากผู้ผลิตที่มีระบบการผลิตผ่ านการรับรองมาตรฐาน และแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้ รวมถึงสังเกตสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” และซื้อผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในบรรจุ ภัณฑ์ที่มีฉลากแจ้งข้อมูลสำคั ญที่ชัดเจน อาทิ วันผลิต วันหมดอายุ และที่สำคัญที่สุดก่อนการรั บประทานต้องปรุงสุกที่อุณหภูมิ 74 องศาเซลเซียส ขึ้นไป ใช้เวลาอย่างน้อย 5 นาที จึงสามารถฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวั ดนกได้” สพ.ญ.ดร.นิอร กล่าว.