คนเลี้ยงหมูสุดทนแล้ว!! ไล่บี้รัฐบาลเป็นรายวัน จี้เร่งปราบผู้ร้าย “หมูเถื่อน” ทำรายย่อยจนตรอก

  •  
  •  
  •  
  •  

คนเลี้ยงหมูสุดทนแล้ว ล่าสุดในนามสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เร่งรัฐบาลปราบผู้ร้ายลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนให้ราบคาบ ชี้ตัวอันตราย ดั๊มพ์ราคาต่ำกว่าต้นทุนผลิตที่แท้จริง บิดเบือนกลไกราคาในประเทศ ปิดโอกาสเกษตรกรรายย่อยฟื้นฟูการเลี้ยงต้องออกจากอาชีพ เตือนหากนิ่งนอนใจอาจเจอปัญหาหมูล้นตลาด ราคาตกต่ำช่วงปลายปีนี้ 

   นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า แม้จะมีการเรียกร้องให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งกรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์เร่งดำเนินการ แต่การปราบปรามและจับกุมยังไม่ดำเนินการอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ทำให้ขบวนการลักลอบนำเข้าไม่เกรงกลัว ทั้งยังมีการลักลอบนำเข้ามาในหลายรูปแบบและมีการทำการตลาดทั้งแบบออนไลน์และขายหน้าร้าน โดยมีราคาขายปลีกเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 135-145 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งต่ำกว่าราคาในประเทศมาก

ฉะนั้น หากภาครัฐปล่อยให้หมูลักลอบนำเข้าเพิ่มมากขึ้นทุกภาค และวางจำหน่ายกันอย่างเปิดเผย ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย ภายในระยะเวลา 18 เดือน ผู้เลี้ยงรายย่อยและรายเล็กไม่รอดแน่นอน เพราะทุกคนมีภาระต้องกู้เงินมาฟื้นฟูกิจการ ถ้าต้องขายหมูขาดทุนจะไปต่อได้อย่างไร รัฐบาลต้องทำทุกวิถีทางให้เกษตรกรมั่นใจอยู่ได้

ทั้งนี้ หลังกรมปศุสัตว์ประกาศพบโรคระบาด ASF เป็นทางการเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 พร้อมแจงตัวเลขผลผลิตแม่หมูหายไปจากระบบ 50% ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูในประเทศปรับสูงขึ้นตามลำดับ โดยราคาหมูเนื้อแดงขยับขึ้นไปสูงสุดที่กิโลกรัมละ 200 บาท จากราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มที่กิโลกรัมละ 100 บาท ทำให้กลุ่มมิจจาชีพเห็นช่องทางฉวยโอกาสทำกำไรจากส่วนต่างหมูนำเข้ามีต้นทุนต่ำกว่า และเป็นชิ้นส่วนที่ประเทศต้นทางไม่บริโภคจึงส่งออกมายังไทยในราคาถูก 

       นายสุรชัย กล่าวอีกว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมาภาครัฐร่วมมือกันตรวจสต๊อกห้องเย็นเกือบทุกวัน พบหมูผลิตกฎหมายจำนวนมาก พอการปราบปรามทิ้งช่วง หมูเถื่อนก็กลับมาอาละวาดอีก ที่สำคัญหมูเถื่อนราคาถูก ทุบราคาหมูในประเทศ ล่อใจผู้บริโภคให้ซื้อเนื้อสัตว์ที่ราคาถูกกว่า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้บริโภคควรรับทราบถึงผลร้ายที่จะตามมาจากการซื้อหมูลักลอบนำเข้าจากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ว่าเนื้อหมูผิดกฎหมายเหล่านั้นเต็มไปด้วยสารเร่งเนื้อแดงที่ประเทศต้นทางยังอนุญาตให้ใช้อยู่ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชั้นดี 

       “สมาคมฯ เป็นห่วงว่าหากหมูเถื่อนยังคงแพร่หลายและกระจายอยู่ทั่วประเทศแบบนี้ จะกระทบกับผลผลิตหมูของไทยที่จะออกในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ แต่ไม่มีตลาดให้กับหมูไทยแน่นอน ปัญหาหนักตกกับเกษตรกรคือของมีแต่ขายไม่ได้” นายสุรชัยกล่าวย้ำ 

      นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ  กล่าวด้วยว่า แม้กรมปศุสัตว์จะออกมากวาดล้างอย่างจริงจัง แต่จำนวนที่จับกุมได้ยังคงเป็นส่วนน้อย จึงอยากให้การปราบปรามมีความชัดเจนและต่อเนื่อง หากเป็นไปได้ควรออกตรวจสอบห้องเย็นทุกวัน ซึ่งสมาคมฯ พร้อมให้ความร่วมมือเพื่อปกป้องเกษตรกร เนื่องจากปัจจุบันมีการส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงที่เสียหายจากปัญหาASF ได้เริ่มกลับมาเข้าขุนใหม่แล้วกว่า 1 ล้านตัว ดังนั้นก่อนที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาด ต้องหยุดการลักลอบนำเข้านี้ให้หมด ซึ่งเครือข่ายผู้เลี้ยงสุกรพยายามหาเบาะแสมาตลอด

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติจะออกมาเรียกร้องในนามสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติครั้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งเกษตรกรในนามของสมาคมผู้หมูรายภาค รวมถึงนักวิชาการอิสระด้านการปศุสัตว์ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการปราบหมูกล่อง หมูเถื่อน ที่นำเข้าจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่องแทบทุกวัน แต่สถานการยังพบว่าหมูเถื่อนนั้นยังมีขายตามปกติ ทำให้นายสุรชัย ออกมาเรียกร้องในนามสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติอีกครั้ง