เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู วอนรัฐแก้ปัญหาราคาวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารสัตว์ด่วน เผยเกษตรกรเดือดร้อนหนักต้นทุนการเลี้ยงพุ่งขึ้น 20-30 % สงสัยราคาข้าวตันละ 5-6 พันบาท แต่ปลายข้าวแตะเกือบ กก.11 บาท ชี้อีกไม่นานผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยจากเดิม 1 แสนรายอาจเหลือไม่ถึง 2 หมื่นคน วอนผู้บริโภคต้องเข้าใจสถานการณ์เมื่อปรืมาณหมูลดลง ราคาอาจสูงขึ้น
นายเสน่ห์ นัยเนตร เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ปัจจุบันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อยู่ที่กว่า 11 บาท และเชื่อว่าจะไปถึง 12 บาทแน่ กากถั่วเหลือง ก็แพงขึ้น ส่งผลถึงต้นทุนการผลิตหมู แต่ที่แปลกใจ คือราคาปลายข้าวที่แพงมากถึง 10 กว่าบาท ทั้งๆที่ข้าวเปลือกราคาถูกมาก เกษตรกรรายย่อย 80% ผสมอาหารสัตว์กันเอง แม้แต่ข้าวการก็แพง การที่พืชสำหรับผลิตอาหารสัตว์ทุกชนิดมีราคาแพงขึ้นเช่นนี้ทำให้เกษตรกรที่เลี้ยงหมูเดือดร้อนกันหมด เพราะการเลี้ยงหมูหนึ่งตัวมีต้นทุนค่าอาหารถึง 65% แล้ว
นอกจากนี้ฟาร์มหมูหลายแห่งยังประสบปัญหาโรคโระบบทางเดินหายใจและระบบสืบพันธุ์หรือ PRRS ระบาดด้วย จำเป็นต้องมีการลงทุนเพื่อป้องกันโรคซึ่งใช้งบสูงมาก ราคาขายก็ไม่ได้ดี เพราะถ้ามีฟาร์มใกล้ๆเกิดโรค ก็ต้องรีบขายหมูทิ้งในราคาไม่คุ้มทุน ตอนนี้รายย่อยจากที่มีแสนกว่าราย เลิกเลี้ยงกันไปมากแล้ว ไม่แน่ในว่าจะเหลือรอดถึง 20,000 รายหรือไม่ ซ้ำร้ายในบางพื้นที่ยังเจอน้ำท่วมฟาร์มอีก จึงอยากขอให้รัฐเข้ามาช่วยจัดการในส่วนที่เป็นต้นทุนหลักก่อน นั่นก็คือราคาวัตถุดิบ เพื่อช่วยให้ต้นทุนไม่บานปลายไปกว่านี้ และต้องขอวอนให้ผู้บริโภคเข้าใจด้วยว่าเนื้อหมูอาจขยับราคาสูงขึ้นบ้าง เป็นเพราะปริมาณหมูในท้องตลาดมีน้อยลงจากสถานการณ์ต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น
เกรียงศักดิ์ เสรีรัตน์ยืนยง
ด้านนายเกรียงศักดิ์ เสรีรัตน์ยืนยง เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร จ.ยะลา กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า ผู้เลี้ยงหมูเผชิญความท้าทายมาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องโรคระบาดที่ทำให้ปัจจุบันต้องแบกรับต้นทุนด้านการป้องกันโรคในฟาร์มค่อนข้างสูง และขณะนี้ยังต้องประสบปัญหาราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้นมาก ยิ่งทำให้ต้นทุนการเลี้ยงสัตว์สูงขึ้นไปอีกกว่า 20-30% แล้ว แม้ปัจจัยของราคาวัตถุดิบอย่างข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หรือกากถั่วเหลืองจะแพงขึ้นจากตลาดโลก แต่ส่วนหนึ่งก็คือผลพวงจากการบริหารจัดการวัตถุดิบอาหารสัตว์ภายในประเทศด้วย
“ข้าวเปลือกมีราคาถูกมากราว 5-6 พันบาท/ตัน ราคาปลายข้าวสำหรับทำอาหารสัตว์ควรจะอยู่ที่ 7-8 บาท/กก. แต่ปัจจุบันปลายข้าวกลับมีราคาถึง 10 กว่าบาทโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือ ข้าวโพดที่มีการประกันราคารับซื้อให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชขั้นต่ำที่ 8.00 บาท/กก. แต่ไม่มีการกำหนดราคาขั้นสูง ส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นถึง 11 บาท ซ้ำเติมต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ ในเมื่อปล่อยราคาข้าวโพดได้แบบนี้ ก็ควรปล่อยราคาขายของฟาร์มตามต้นทุนที่เกิดขึ้นด้วย จึงจะสอดคล้องและเป็นธรรม” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว