น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย
ผู้เลี้ยงสุกรโอด สารพัดปัญหาประดังเข้ามา ทั้งพิษน้ำท่วม วัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาพุ่ง โรคระบาด การบริโภคน้อยลง เกษตรกรแบกต้นทุนสูงขึ้น คาดยอดผลิตหมูขุนหายไปกว่า 30 % เผยทั้งรายย่อย ขนาดกลาง แม้รายใหญ่ต้องระวังแบบสุดๆ
น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยถึงสถานการณ์การเลี้ยงสุกรในปัจจบุันว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อผลผลิตสุกร ซึ่งเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรส่วนใหญ่ชะลอการนำสุกรชุดใหม่เข้าเลี้ยงออกไปก่อน และบางส่วนลงไม่เต็มกำลังการผลิต เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะน้ำท่วม และรอดูสถานการณ์โรค รวมทั้งภาวะโรคในสัตว์ด้วย อาทิ PRRS หรือเพิร์ส (โรคระบบทางเดินหายใจและระบบสืบพันธุ์) และสถานการณ์การระบาดโควิด-19
ขณะที่ต้นทุนการผลิตสุกรในปัจจุบัน ตามข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) อยู่ที่ 80.50 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจัยสำคัญมาจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวโพดอาหารสัตว์ที่ใช้ในสูตรการผลิตอาหารสุกรมากถึง 50 % มีราคาถึงกิโลกรัมละ 11.35 บาท ทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
น.สพ.วิวัฒน์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน คาดว่า ประเทศไทยจะมีแม่สุกรจำนวน 8 แสนตัว ลดลงจากปกติที่มีจำนวน 1.1 ล้านตัว คิดเป็นผลผลิตสุกรที่หายไปจากระบบประมาณ 30 % ส่งผลให้ การผลิตสุกรขุนเหลือ 15 ล้านตัวต่อปี จากเดิมที่มีการผลิตที่ 19-20 ล้านตัวต่อปี หรือลดลง 25 % เนื่องจากเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั้งรายย่อย รายกลาง และรายใหญ่ ต่างมีความระมัดระวังในการนำสุกรเข้าเลี้ยง โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่ประสบกับปัญหาการขาดทุนสะสมนานกว่า 3 ปีในช่วงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามในปี 2564 เกษตรกรได้มีการบริหารจัดการฟาร์มและพัฒนาระบบการเลี้ยงด้วยระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ หรือ Biosecurity ในฟาร์มอย่างเข้มงวด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง ป้องกันความเสี่ยงจากโรค ASF ขณะเดียวกัน โรค PRRS ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ทำให้การผลิตสุกรเสียหายเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ฟาร์มสุกรของเกษตรกรรายย่อยและฟาร์มขนาดเล็กมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรยังได้รับผลกระทบจากภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมที่หดตัวลง เนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 มีการปิดสถานที่เสี่ยง รวมถึงมาตรการล็อคดาวน์ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรลดลง ส่งผลต่อราคาขายสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มของเกษตรกรมีภาวะตกต่ำ สวนทางกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจเข้าเลี้ยงสุกรขุนลดลงดังกล่าวข้างต้น.