กรมปศุสัตว์เร่งมาตรการพยุงราคาไข่ไก่ ยันชะลอนำเข้า-นำผ่านสัตว์ ป้องโรคระบาดเฉพาะบางช่วงเท่านั้น

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมปศุสัตว์ ชี้มาตรการการชะลอนำเข้า-นำผ่านสัตว์หรือซากสัตว์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะนำเข้าโรคระบาดที่อาจมากับสัตว์หรือซากสัตว์ เฉพาะมีรายงานว่าประเทศต้นทางมีโรคระบาดสัตว์เท่านั้น ยืนนยันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่มีสามารถเลือกปฏิบัติในการระงับหรือชะลอการนำเข้าสัตว์หรือซากสัตว์ของผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งได้ ส่วนราคาไข่ไก่ลดลงมาจากฝนตกหนัก แนวโน้มการบริโภคลดลง วอนขอความร่วมมือเกษตรกรรายใหญ่เน้นขยายส่งออก – ปลดไก่เพื่อพยุงราคาไว้

      นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวถึงมาตรการในการชะลอนำเข้าหรือนำผ่านสัตว์และซากสัตว์จากต่างประเทศว่า  จะมีการดำเนินการเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะนำเข้าโรคระบาดมากับสัตว์หรือซากสัตว์ในกรณีที่มีรายงานว่าประเทศต้นทางมีโรคระบาดสัตว์เท่านั้น ซึ่งเป็นการดำเนินการรายประเทศเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่มีสามารถเลือกปฏิบัติในการระงับหรือชะลอการนำเข้าสัตว์หรือซากสัตว์ของผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งได้

ฉะนั้นกระแสข่าวที่ระบุว่าทางกรมปศุสัตว์อาจประกาศชะลอนำเข้า – นำผ่าน “สัตว์หรือซากสัตว์บางประเภท” สกัดโรคระบาดเข้าไทย ในการสกัดการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ในปี 2565 ทั้งหมดหรือเฉพาะ 7 ราย ที่ขอนำเข้าใหม่ โดยมีผู้ประกอบการบางรายที่มีปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ในไทยได้รับประโยชน์นั้น ไม่เป็นความจริง และในปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดแผนการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ของปี 2565 ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาสถานการณ์การผลิตและการตลาดโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภาคเอกชนและภาครัฐก่อนนำเสนอเข้าสู่เอ้กบอร์ด

      สำหรับเรื่องราคาไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ที่ทางสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ได้มีการแจ้งราคาแนะนำไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ปรับตัวลดลง 20 สตางค์ อยู่ที่ฟองละ 2.80 บาท เทียบกับคาดการณ์ต้นทุนการผลิตไข่ไก่ปัจจุบันที่ฟองละ 2.75 บาท (คณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตไก่ไข่และไข่ไก่) นั้น มีสาเหตุจากปัจจุบันมีฝนตกหนักติดต่อกัน รวมถึงมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ประกอบกับแนวโน้มอัตราการบริโภคไข่ไก่จากการกักตุนในครัวเรือนลดลง จากเดิมที่ประชาชนมีการกักตุนไข่ไก่เพราะความกังวลต่อสถานการณ์และส่วนหนึ่งต้องทำงานที่บ้าน

     ทั้งนี้กรมปศุสัตว์ได้มีการหารือและวิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภาครัฐ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ และผู้ค้าไข่ไก่ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ว่า ในเดือนตุลาคมของทุกปีมีฝนตกหนักและเทศกาลกินเจ ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ราคาไข่ไก่ปรับตัวลดลงทุกปี จึงได้มีมาตรการขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่ยืนกรงให้ปลดไก่ไข่ที่อายุเหมาะสมกับสถานการณ์

     นอกจากนี้ยังมีมาตรการขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่ร่วมกันผลักดันการส่งออกไข่ไก่หรือปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงชดเชยการส่งออกเพื่อปรับลดกำลังการผลิตไข่ไก่ภายในประเทศตามสถานการณ์ระหว่างเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2564 แล้ว ซึ่งกรมปศุสัตว์จะเร่งดำเนินการขอความร่วมมือและติดตาม ทั้งนี้ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่ในการช่วยกันดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว เพื่อพยุงราคาในเดือนตุลาคม 2564 โดยเร็วด้วย