สุดเอือมระอา งัดข่าวเก่า 11 ปีที่แล้วแชร์เท็จ”หมู-ไก่เป็นเอดส์”

  •  
  •  
  •  
  •  
กรมปศุสัตว์ สุดเอือมระอา แชร์ข่าวเท็จ “หมู-ไก่เป็นเอดส์” ขอร้องหยุดทำลายเกษตรกร-ผู้บริโภคพบเห็นการทำผิด ส่งข้อมูลผ่านแอพ “DLD 4.0” เตรียมใช้พ.ร.บ.คอมพ์ฯ จัดการ เผยมีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ
      น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการนำข้อความเท็จเรื่องหมูและไก่เป็นเอดส์ วนกลับมาแชร์กันในโลกออนไลน์อีก ทั้งๆที่เรื่องดังกล่าวเป็นข้อความเก่าที่ส่งต่อกันตั้งแต่ปี 2551 โดยเรื่องที่ระบุไม่เคยมีมูลความจริง อาจเป็นไปได้ว่าข้อมูลเท็จนี้ยังคงฝังอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ต หรืออาจมีขบวนการจ้องทำลายเศรษฐกิจของประเทศไทยและทำร้ายเกษตรกรไทย เนื่องจากมีการเพิ่มเติมข้อความให้เลิกทานหมูไก่ กุ้ง ปลา และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
         นอกจากนี้ ยังมีผู้ประสงค์ร้ายนำคลิปวีดีโอ ภาพการทำลายหมูที่เป็นโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ตามมาตรฐานขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ส่งไปพร้อมกับข้อความเท็จข้างต้น การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบร้ายแรงต่อภาคเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารของไทย ที่มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล และกระทบกับผู้บริโภคในวงกว้าง
           “เรื่องหมูไก่เป็นเอดส์ไม่เป็นความจริงและเป็นเรื่องเก่าที่วนส่งกันมากว่า 11 ปี จึงไม่ควรแชร์กันอีกต่อไป เพราะกระทบเกษตรและผู้บริโภคจำนวนมาก ขอยืนยันว่าไทยไม่เคยพบการป่วยตายของหมู ไก่และเป็ดในทุกพื่นที่ ที่ผ่านมากรมปศุสัตว์มีมาตรการเฝ้าระวังโรคติดต่อในสัตว์ ทั้งหมูและสัตว์ปีกอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันบูรณาการในการป้องกันโรค ASF อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อสะกัดกั้นไม่ให้โรคนี้เข้ามาสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการผลิตสุกร และเศรษฐกิจของประเทศได้ ขอให้เกษตรกรและประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก” อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว
           น.สพ.สรวิศ  กล่าวอีกว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบการแชร์ข้อความนี้ในช่องทางโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟสบุ๊ก ไลน์ เว็บบล็อค ฯลฯ โปรดถ่ายภาพหน้าจอและส่งข้อมูลมาที่กรมปศุสัตว์ ผ่านแอพพลิเคชั่น “DLD 4.0” ในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งกรมฯเปิดไว้รับเรื่องร้องทุกข์ แจ้งเบาะแสการกระทำผิดกฏหมายต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลสู่การแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ส่งต่อข้อมูลเท็จตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ดังเช่นที่ภาคเอกชนมีการฟ้องร้องผู้กระทำความผิดในประเด็นนี้ กระทั่งศาลอาญาพิพากษาให้จำเลยที่ส่งข้อมูลเท็จผ่านโซเชียลมีเดีย มีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ