ดลมนัส กาเจ

     ย้อนไปเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 เวลา 09.09 น. เป็นฤกษ์งาม ยามดี เป็นวันแรกที่เปิด “สะพานชลมารควิถี เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา” อย่างเป็นทางการ รวมเวลาที่เปิดสะพานแห่งนี้ให้ผู้สัญจร ชมทิวทัศน์จนได้อย่างเป็นทางการกว่า 1 ปีแล้ว และวันนี้สะพานแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นแลนด์มาร์คของนักท่องเที่ยวที่เข้าไปสัมผัสจังหวัดชลบุรี หากแต่ยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของนักตกปลาอีกด้วย

    สะพานชลมารควิถี เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เป็นเส้นทางเลี่ยงเมืองเลียบชายฝั่งทะเลที่มีแนวขนานกับถนนสุขุมวิท ความยาวประมาณ 16.57 กิโลเมตร ด้านทิศเหนือจากซอยบางทราย 83 ไปจรดตำบลคลองตำหรุ ถนนสุขุมวิท อ.เมือง จ.ชลบุรี นัยว่า ถูกสร้างขึ้นมาก็เพื่อแบ่งเบาปัญหาการจราจรบนถนนสุขุมวิทของจังหวัดชลบุรี เป็นถนนที่มีความสวยงดงาม ทั้งเป็นสะพานข้ามทะเลที่มองเห็นน้ำทะเลสีฟ้าครามไกลลิบๆสุดลูกตาต่อช่วงด้วยถนนเลีบยริมชายฝั่ง ที่สำคัญถนนและสะพานสายนี้ไม่เพียงแต่การแบ่งเบาความแออัดของการจราจรบนถนนสุขุมวิทที่ผ่านตัวเมืองชลบุรีอย่างเดียว หากแต่ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อีก

    “สีสันโลกเกษตร” ของ “เกษตรทำกิน” ได้มีโอกาสไปสัมผัส และผ่านถนนสายนี้ในยามเย็นของวันหนึ่ง หลังจากกลับจากการเดินทางมาจากพัทยา เพื่อสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยว การทำมาหากินของคนไทยหลังจากที่รัฐบาลเปิดประเทศมาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ผ่านถนนสายนี้โดยเริ่มจากจากซอยบางทราย 83 มุ่งหน้าเข้าสูกรุงเทพฯ เพื่อทะลุถนนสุขุมวิท ได้พบเห็นว่า บนสะพานแห่งนี้นอกจากที่จะเป็นเส้นทางลัดเลี่ยงตัวเมืองชลบุรี ที่ได้เชยชมทิวทัศน์อันสวยทั้งสองฝากฝั่งเส้นทางแล้ว ยังแลเห็นบรรดานักตกปลายเป็นย่อมๆ ตลอดแนวเส้นทาง เสมือนหนึ่ง ที่นี่คือ “สวรรค์ของนักปลาแห่งภาคตะวันออก” ที่มีนักตกปลาจำนวนมากใช้เวลายามว่างมาตกปลากัน

    จากการลงไปสัมผัส สอบถามดูนักตกปลาบอกว่า ที่นี่จะมีปลากดทะเลเป็นปลารับแขกที่ใครและใครไปแล้วไม่ผิดหวัง แต่กระนั้นต้องดูทิศทางของน้ำด้วย ที่นักตกปลาต้องเลือกในช่วงที่น้ำทะเลขึ้น บางคนในบางวันจะได้ปลากลับบ้านคนละกว่า 10 กิโลกรัม นอกจากปลากดแล้วยังมีปลาข้างเหลือง และปลาใบปออีกด้วย (รายละเอียดในคลิป)