“สยามคูโบต้า จับมือพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนกว่า 21 องค์กร จัดกิจกรรม “” เชิญชวนนักวิ่งทั่วประเทศร่วมรณรงค์ให้ตระหนักถึงปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 พร้อมร่วมสนับสนุนต้นกล้าไม้ยืนต้น กว่า 1,000 ต้น เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง สร้างสวนป่านิเวศหนองแขม กรุงเทพมหานคร”
จากสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับมลภาวะทางอากาศ โดยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินมาตรฐานในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนเป็นอย่างมาก หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาคือการเผาในที่โล่ง รวมไปถึงการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร ทางสยามคูโบต้า ได้จับมือพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 21 องค์กร จัดกิจกรรม “KUBOTA RUN เกษตรปลอดเผา เราปลอดฝุ่น” เชิญชวนนักวิ่งทั่วประเทศร่วมรณรงค์ให้ตระหนักถึงปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 พร้อมร่วมสนับสนุนต้นกล้าไม้ยืนต้น กว่า 1,000 ต้น เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง สร้างสวนป่านิเวศหนองแขม กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้รายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายนำไปมอบให้กับมูลนิธิสิ่งแวดล้อมไทย และสถาบันโรคทรวงอก รวมทั้งส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้แก่เกษตรกร
นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึงความเป็นมาของกิจกรรมในครั้งนี้ว่า สยามคูโบต้า ได้เล็งเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เกินมาตรฐาน ในภาคการเกษตร จึงได้ริเริ่มโครงการเกษตรปลอดการเผา ขึ้นตั้งแต่ปี 2562 ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เพื่อพัฒนาภาคเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้ในการจัดการและสามารถเข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อทำการเกษตรในรูปแบบปลอดการเผา สอดคล้องกับเป้าหมายภาครัฐในการลดการเผาในพื้นที่การเกษตรให้เป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2565
สยามคูโบต้าจึงได้สานต่อโครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างและมุ่งสร้างความตระหนักถึงปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้มีส่วนร่วมรณรงค์ในการลดปัญหาดังกล่าว ด้วยการจัดกิจกรรมวิ่งในรูปแบบ Virtual Run ภายใต้ชื่องาน “KUBOTA RUN เกษตรปลอดเผา เราปลอดฝุ่น” ซึ่งเป็นรูปแบบเก็บสะสมระยะวิ่ง ได้แก่ มินิมาราธอน ฮาล์ฟมาราธอน และมาราธอน โดยผนึกความร่วมมือทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานท้องถิ่นในจังหวัดนำร่องเกษตรปลอดการเผาทั้ง 5 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด และราชบุรี โดยมีนักวิ่งเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 2,600 คน รายได้จากการสมัครหลังจากหักค่าใช้จ่ายมอบให้แก่มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย จำนวนเงิน 150,000 บาท และสถาบันโรคทรวงอก อีก 150,000 บาท เพื่อสนับสนุนกิจกรรมตามวัตถุประสงค์”
“นอกจากนี้ สยามคูโบต้ายังได้จัดกิจกรรมปลูกต้นกล้าไม้ในพื้นที่สาธารณะประโยชน์ รวมถึงบริจาคเมล็ดพันธุ์ เป็นจำนวนเท่ากับระยะวิ่งสะสมของผู้สมัคร โดยทุก 1 กิโลเมตร เท่ากับต้นไม้ 1 ต้น โดยได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผักจากเจียไต๋ร่วมส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้แก่ประชาชนและเกษตรกรทั่วประเทศรวม 17,000 ซอง แบ่งเป็น ผ่านช่องทางออนไลน์ จำนวน 8,000 ซอง และหน่วยงานราชการ ได้แก่ กรมการข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย และจังหวัดนำร่อง รวม 9,000 ซอง อีกทั้งบริษัทฯ ยังจับมือกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ร่วมปลูกต้นกล้าไม้ยืนต้นในพื้นที่สาธารณะประโยชน์ บริเวณศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยหนองแขม สร้างสวนป่านิเวศหนองแขม กรุงเทพมหานคร กว่า 1,000 ต้น ประกอบด้วย ประดู่ อินทนิล นนทรี คำมอกหลวง มะค่าโมง ชงโคฮอลันดา และมะฮอกกานี เป็นต้น” นางวราภรณ์ กล่าวเสริม
ด้าน ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวถึงความร่วมมือในกิจกรรมปลูกต้นไม้ลดฝุ่น PM 2.5 ว่า ทางสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องและเพิ่มพูนพื้นที่สีเขียว โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองใหญ่ๆ ที่ถูกทำลายความหลายหลายทางชีวภาพไปมาก ซึ่งการปลูกต้นไม้เพียง 1 ต้น จะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งกรองสารมลพิษในอากาศ เช่น ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ หรือ ฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งต้นไม้เพียง 1 ต้นจะช่วยดูดซับได้ 1.4 กิโลกรัม/ปี ความร่วมมือในครั้งนี้ ยังเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นมหานครสีเขียว และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติซึ่งมีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองและชุมชนต่างๆ
ขณะที่นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินโครงการ GREEN BANGKOK 2030 ภายใต้การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ อย่างปลอดภัย รวมถึงพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครสีเขียว ที่สวยงาม และร่มรื่น นอกจากนี้ต้นไม้ยังช่วยดูดซับมลพิษทางอากาศ ลดฝุ่นละออง PM2.5 และช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งโครงการสวนป่านิเวศหนองแขม เกิดจากการพัฒนาพื้นที่ภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงาน ระยะที่ 1 บนพื้นที่ 7 ไร่ ก่อสร้างเป็นสวนป่านิเวศที่มีองค์ประกอบเป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนได้พักผ่อน และออกกำลังกาย โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และบริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมสนับสนุนพันธุ์กล้าไม้
สยามคูโบต้ามุ่งมั่นที่จะผลักดันให้แนวคิดการทำเกษตรปลอดการเผาเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย มุ่งแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในภาคการเกษตร พร้อมขยายองค์ความรู้ “เกษตรปลอดการเผา” ไปยัง ทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมภาคเกษตรกรรมให้เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป
—