ดลมนัส กาเจ
“ล่าสุดเราได้วิจัยพัฒนาเครื่องยนต์สำหรับวงการก่อสร้างเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้พลังงานก๊าซ เอ็นจีวี กำลังศึกษาวิจัยเพิ่มเติม คาดว่าในปี 2020 น่าจะออกสู่ท้องตลาดได้ ซึ่งทุกก้าวของการพัฒนานั้นยันมาร์ จะเน้นการวิจัยและพัฒนาทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์”
ในระหว่างการเดินทางไปทำข่าว และดูงานยันมาร์โชว์เทคโนโลยีสุดล้ำในญี่ปุ่นและโครงการเพื่อสังคมเพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนทั่วโลก ที่กลุ่มยันม่าร์ มองไปยังอนาคตในอีก 100 ปีข้างหน้าตามวิสัยทัศน์ “A Sustainable Future” หรืออนาคตที่ยั่งยืนเมื่อปลายเดือนกันยายน 2562 นั้น ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมโรงงานผลิตเครื่องยนต์หรือเครื่องจักรกลจักรกลดีเซล ทันสมัยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ณ โรงงานบิวะ ของบริษัท ยันม่าร์ จำกัด จังหวัดชิกะ ประเทศญี่ปุ่น
โรงงานบิวะเป็นโรงงานหลักที่ใช้ในการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลสูบตั้งระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งโรงงานแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2538 บนพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 105,860 ตารางเมตร และติดตั้งเครื่องจักรและเทคโนโลยีระดับชั้นนำ ภายในสายการผลิตมีกระบวนการผลิตที่ยืดหยุ่น ซึ่งสามารถผลิตเครื่องยนต์ได้มากถึง 2,000 รูปแบบ ตามความต้องการของลูกค้ายันม่าร์ทั่วโลก
ที่สำคัญของโรงแห่งนี้ผลิตเครื่องทั้ง 7 กลุ่มธุรกิจของยันมาร์ได้แก่ ได้แก่ เครื่องยนต์สำหรับอุตสาหกรรม เครื่องยนต์สำหรับเรือเดินทะเล เครื่องจักรกลการเกษตรและอุปกรณ์ เครื่องจักรสำหรับก่อสร้าง ระบบพลังงาน เรือสำราญและเครื่องมือ และส่วนประกอบของเครื่องจักร ที่ใช้เทคโนโลยีแบบถึงอัตโนมัติ ใช้แรงงานคนเพียงไม่มากนัก ยอเว้นแผนกประกอบที่ต้องใช้แรงงานคน ที่ส่วนใหญ่จะทำงานแบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ ถือเป็นการตอบโจทย์ในยุคแห่งการขาดแรงงานได้เป็นอย่างดี
คุณนากายะมะ เจ้าหน้าฝ่ายบริหารจัดการผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์สำหรับอุตสาหกรรมโรงงานบิวะ เล่าว่า ที่จริงบริษัทยันม่าร์นั้น ก่อตั้งขึ้นที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2455 และในปี 2476 ได้เป็นบริษัทแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กที่เหมาะกับการใช้งานในตลาด นับตั้งแต่นั้นยันม่าร์ได้ขยายจากเครื่องยนต์ดีเซลที่เป็นหัวใจหลักของบริษัท ไปยังผลิตภัณฑ์ บริการ และความเชี่ยวชาญด้านอื่นๆ เพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่ครบวงจรในฐานะผู้ผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม โดยโซลูชั่นที่โดดเด่นของยันม่าร์ อาทิ
การคิดค้นเครื่องยนต์ 2LB และ เครื่องยนต์ SS สำหรับเรือประมงในปี 2490 ซึ่งเป็นช่วงหลังเกิดวิกฤตขาดแคลนอาหารหลังสงครามโลก, แทรกเตอร์พลังแรงรุ่น Y ซีรี่ส์ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ที่เหมาะสำหรับการไถโดยเฉพาะ จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ขายดีอันดับหนึ่งในปี 2509, รถไถเดินตามรุ่น HD5 เปิดตัวในปี 2508 ซึ่งเป็นเครื่องจักรกลเครื่องแรกของญี่ปุ่นที่สามารถพรวนดินได้ นับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้อุตสาหกรรมการการเกษตรและตอบโจทย์ปัญหาขาดแคลนแรงงาน, รถขุด YB600C ที่เปิดตัวในปี 2515 สามารถขุดได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในจุดที่แคบ, Smart Assist Remote ในปี 2556 ที่เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีไอซีทีเพื่อการเกษตรหลักของยันม่าร์
“โรงงานแห่งนี้เราเน้นในการผลิตเครื่องยนต์ขนาดเล็กส่งไปทั่วโลก ในปี 2019 มีออเดอร์สั่งมาจากทั่วโลก 10 ล้านเครื่อง ตอนนี้เทคโนโลยที่ไม่เหมือนใครของเรา คือเราพร้อมรองรับเกณฑ์มาตรฐานก๊าซไอเสียใหม่ ใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด เทคโนโลยีควบคุมการทำงานอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีควบคุมไอเสียจากเครื่องยนต์ เทคโนโลยีหัวฉีดแรงดันสูงระบบคอมมอนเรล ล่าสุดเราได้วิจัยพัฒนาเครื่องยนต์สำหรับวงการก่อสร้างเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้พลังงานก๊าซ เอ็นจีวี กำลังศึกษาวิจัยเพิ่มเติม คาดว่าในปี 2020 น่าจะออกสู่ท้องตลาดได้ ซึ่งทุกก้าวของการพัฒนานั้นยันมาร์ จะเน้นการวิจัยและพัฒนาทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์”
การชมโรงงานบิวะในครั้งนี้ เราเริ่มต้นจากแผนกผลิตชิ้นส่วนด้วยระบบอัตโนมัติที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง จากนั้นไปจุดที่ขึ้นรูปของเครื่องยนต์ แล้วเดินต่อไปยังจุดผลิตกระบอกลูกสูบ จุดประกอบเครื่องยนต์ โดยเครื่องยนต์ 1 เครื่องจะมีชิ้นส่วนต่างๆประกอบแล้วกว่า 400 ชื้น แล้วจุดตรวจคุณภาพของเครื่อง เราใช้เวลาในโรงงานแห่งนี้ราว 2 ชั่วโมงจากนั้นมุ่งหน้าสู่โอซาก้า และไปชมการแข่งขันฟุตบอลที่ยันมาร์ให้การสนับสนุนในวันรุ่งขึ้น
สำหรับการดำเนินธุรกิจของยันม่าร์นั้น ไม่ว่าจะเป็นภาคพื้นดิน ทางทะเล หรือในเมืองใหญ่ พันธกิจหลักในการดำเนินธุรกิจยันม่าร์ คือ การมุ่งเน้นไปที่ความท้าทายกับสิ่งที่ต้องเผชิญในเรื่องของ อาหาร พลังงาน เพื่อทำชีวิตของผู้คนให้สมบูรณ์สำหรับวันพรุ่งนี้ และต่อๆไปของทุกคน จึงเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของยันม่าร์ในการมอบ “อนาคตที่ยั่งยืน” ซึ่ง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ : https://www.yanmar.com/global /