อาหมัด เบ็ญอาหวัง
365 วันมาเวียนบรรจบในวันที่ 10 ของเดือนซุลฮิญะ ฮ.ศ.1440 ตรงกับวันที่ 11 สิงหาคม 2562 ถือเป็นช่วงเทศกาลมหามงคลอีดใหญ่ หรือตรุษใหญ่ของชาวมุสลิมทั่วโลกที่เรียกว่า “วันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮา” หรือที่รู้จักกันมายาวนานตามภาษาพื้นบ้าน(ภาษายาวี)ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า “วันฮารีรายอฮัจญี” ตรงกับวันที่ชาวมุสลิมทั่วโลกเริ่มทำพิธี “ฮัจญ์” ณ มหานครมะกะห์ ประเทศซาอุดิอารเบีย ซึ่งเทศกาลนี้มี 3 วันด้วยกัน
ก่อนถึงเทศกาลมหามงคลวันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮา 1 วัน คือวันที่ 9 เดือนซุลฮิญะ เป็นวันอารอฟะห์ ที่ผู้แสวงบุญจากทุกประเทศ ณ มหานครมะกะห์ ต้องมาทำขั้นตอนสำคัญของการประกอบพิธีฮัจย์ ซึ่งต้องใช้ความอดทนอย่างสูง ขณะที่ครอบครัวมุสลิมที่อยู่ในประเทศต่างๆที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ ก็เตรีข้าวของอาหารคาวหวานไว้ เพื่อร่วมฉลองวันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮาในวันรุ่งขึ้น ที่ชาวมุสลิมทุกคนทั่วโลกละการทำงานทุกอย่าง เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง และร่วมพิธีละหมาดร่วมกัน เรียกว่า “ละหมาดสุนัตอีดิ้ลอัฎฮา”
อย่างไรก็ตามในวันนี้เองชาวมุสลิมจะทำบุญร่วมกันด้วยการนำอาหารทั้งคาว หวานที่เตรียมไว้เมื่อวันวาน ปรุงให้สุกพาไปที่มัสยิด ส่วนครอบที่ไม่ทำเอง ก็จะซื้ออย่างอื่นไปร่วมทำบุญ ร่วมทั้งการบริจาคทรัพย์บ้างตามศรัทธา จนละหมาดเสร็จในช่วงเช้าร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน จากนั้นจึงไปเยี่ยนเยือนหลุ่มฟังมายัต(ร่างไร้วิญญาณ) หรือ “กุโบว์”ของบุพการีทั้งบิดา-มารดรหรือญาติพี่น้อง
สำหรับคนต่างถิ่นหรือต่างจังหวัดที่อาศัยอยูในเมืองกรุงอย่างเราๆ เนื่องจากโอกาสไม่เอื้อต่อการเดินทางกลับบ้านเกิด ก็ใช้วิธีง่ายๆ เช้าไปมัสยิด ซื้อของสำหรับบริโภคไปร่วมทำบุญ ร่วมละหมาด บริจาคตามศรัทธาแล้ว พาครอบครัวไปทำบุญให้สัตว์ด้วยการไปให้อาหารปลา เราเลือกที่ ”เรือนแพพิชชิ่งปาร์ค” เป็นร้านอาหารไร้วัตถุดิบปรุงอาหารที่เป็นสุกร เนื่องจากลูกค้าเป็นมุสลิมจำนวนมาก อยู่ที่คู้ซ้าย เขตหนองจอก กรุงเทพฯ เป็นเรือนแพที่อยู่ริมทะเลสาบกว้างใหญ่ไพศาลกินพื้นที่กว่า 1,300 ไร่
ที่นี่บรรยากาศดี รสชาตอาหารอร่อย ชาวมุสลิมนิยมไปรับประทานกัน เพราะนอกจากบรรยากาศดี ลมเย็นตลอดแล้ว พวกเด็กๆได้เพลิดเพลินกับการให้อาหารปลาน้ำจืดสารพัดชนิดทั้งปลาเทโพ เทพา สวาย บึก นิล ตะเพียน ยีสกทั้งไทยและเทศ เปคู ปลาดุก และอื่นอีกมากมาย
ในระหว่างรับประทานอาหารไป ได้เพลิดเพลินกับการให้อาหารปลา พร้อมๆกับการชมการเล่นเจ๊สกีอีกด้วย