โดย…ดลมนัส กาเจ
ตอนสายแก่ๆของวันที่ท้องฟ้าโปร่งในฤดูกาลแห่งการเปลี่ยนของสภาพภูมิอากาศ คาราวาน “ฟอร์ด เรนเจอร์” ราว 20 คันล้อหมุนออกจากหน้าโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ ลัดเลาะตามเส้นทางเลียบสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรประการ เปลี่ยนเส้งทางขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีปลายทาง ตะลุยสวนเกษตรในภาคตะวันออก
[adrotate banner=”3″]
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของบริษัทฟอร์ดประเทศไทยร่วมกับสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย ภายใต้กิจกรรม “แกร่ง…เพื่อทุกงานเกษตร” กับฟอร์เรนเจอร์ที่พาคณะสื่อมวลชนสายเกษตร และแกนนำเกษตรกร ร่วมทดสอบสมรรถนะอันเหนือชั้นและประสิทธิภาพการใช้งานเกษตรกรรมทุกรูปแบบของรถกระบะพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ในการเยี่ยมชมสวนทุเรียนส่งออก และสละสายพันธุ์สุมลีรายใหญ่ ทั้งใน จ.ระยอง และจันทบุรีระหว่างวันที่ 2-3 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา เป้าหมายแรกเข้าชมโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) จังหวัดระยอง อยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรม-เหมราช-ระยอง ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ระยะทาง 115 กม.
การร่วมคาราวานในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่อย่างเหนือระดับของฟอร์ด เรนเจอร์ ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์อันทรงพลัง ดีไซน์แข็งแกร่ง และเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อมอบความมั่นใจและความปลอดภัยในทุกการเดินทาง และเมื่อเดินทางถึงโรงงานเอฟทีเอ็ม คณะสื่อมวลชนได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่และทันสมัยของโรงงานผลิตรถยนต์มาตรฐานระดับโลก ซึ่งก่อตั้งจากเม็ดเงินลงทุนมูลค่ามหาศาลกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท โดยโรงงานแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นฐานการผลิตสำคัญของฟอร์ด อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์ฟอร์ดไปยังทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
โรงงานแห่งนี้มีเนื้อที่ 200,000 ตารางเมตร มีพนักงานมืออาชีพกว่า 2,000 คน และเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตรถยนต์อันสมัย โรงงานเอฟทีเอ็มจึงสามารถผลิตรถยนต์ได้สูงสุดถึง 32 คันต่อชั่วโมง โดยโรงงานแห่งนี้ยึดมั่นในการเป็นโรงงานสีเขียว ฟอร์ดจึงได้เลือกใช้นวัตกรรมการผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี Rotational Dip ที่ช่วยประหยัดน้ำ สารเคมี และปริมาณการใช้ไฟฟ้า รวมถึงเทคโนโลยีการพ่นสีแบบ Three-Wet High Solid ที่ลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสารประกอบอินทรีย์ระเหย เมื่อเทียบกับระบบการพ่นสีแบบทั่วไป
คล้อยบ่ายแก่ๆ คณะของเราออกจาก โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) จังหวัดระยอง คณะของเราเดินทางลัดผ่านอ่างเก็บน้ำกระแสร์ ลงท้ายเขื่อนลัดเลาะไปตามเส้นทางอ๊อฟโรดถนนลูกรัง เพื่อทดสอบสมรรถนะการใช้งานเกษตรกรรมของฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นเอ็กซ์แอล และ เอ็กซ์แอลเอส (XL และ XLS) ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นสุดยอดรถกระบะพันธุ์แกร่งทั้งด้านความแข็งแกร่ง ความสมบุกสมบันในการใช้งานเกษตร และสมรรถนะอันเปี่ยมประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลังและการบรรทุกได้สูงสุดถึง 1.3 ตัน
เป้าหมายต่อไป สวนทุเรียน “สวนสุเทพ” ของ สุเทพ จรูณชนม์ ต.พลงตาเอี่ยม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง สวนแห่งนี้เป็นสวนทุเรียนสายพันธุ์หมอนทองเพื่อส่งออกไปยังประเทศจีนอย่างเดียว และเจ้าของเน้นผลิต “ทุเรียนนอกฤดู” บนพื้นที่ 120 ไร่ ที่ทำให้ผลผลิตออกก่อนสวนอื่น ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน. จึงทำให้ได้ราคาดี โดยผลผลิตส่วนใหญ่นั้น จะส่งออกไปยังประเทศจีนเป็นหลัก และมีผลผลิตอยู่ที่ประมาณ 150,000 กิโลกรัมต่อปี
การเข้าชมสวนทุเรียนส่งออกในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้รับฟังข้อมูลการปลูก ดูแลรักษา และพัฒนาการผลิต เพื่อให้ได้ทุเรียนพันธุ์ดีมีคุณภาพ พร้อมส่งออก นอกนี้บรรสื่อมวลชนได้ชิมทุเรียนเกรดส่งออกแล้ว ยังมีกิจกรรม การแข่งขันขนทุกเรียน ปลอกทุเรียนและกินทุเรียนอย่างสนุกสนาน (ดูคลิป)จนมือมืดค่ำนั่นแหละจึงเข้าที่พัก
เช้าวันใหม่ คณะสื่อมวลชนได้ออกเดินทางไปร่วมกิจกรรมจิตอาสาปล่อยปูและปลูกป่าชายเลน ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านน้ำแดง อ.ขลุง จ.จันทบุรี ซึ่ง ด.ต.ภุชงค์ เทพมงคล ครูผู้สอนประจำโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านน้ำแดง บอกว่า ที่นี่กลายเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านป่าชายเลน การเลี้ยงปูทะเล และปลานวลจันทร์ทะเลอีกด้วย (ดูคลิป)
จากนั้นขบวนคาราวาน ออกจากโรงเรียนตระเวนชายแดนบ้านน้ำแดง มุ่งหน้าสู่สวนสละลุงตี๋ ที่ ต.น้องพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ที่มีพื้นที่กว้าง 24 ไร่ และมีสละทั้งหมดถึง 1,100 กอ เป็นสายพันธุ์สุมาลี สามารถให้ผลผลิตทั้งปีกว่า 50 ตัน และสวนแห่งนี้ถูกเจ้าของจัดระเบีนบสะอาด สวยงามมาก ก็เช่นเคยผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้เพลิดเพลินกับการลิ้มลองสละลูกอวบรสเปรี้ยวหวานชนิดที่อิ่มไม่อั้น และเกือบทุกคนติดใจในรสชาติต้องซื้อกลับไปฝากให้คนทางบ้านอีกด้วย
อนุสรณ์ ธิติคุณรักษ์ เจ้าของสวนลุงตี๋ บอกว่า เดิมทีปลูกสละเนินวงศ์ ตอนนี้หลังสายพันธุ์สุมาลีมาแรง ราคาดี ให้ผลผลิตสูง เลยเปลี่ยนปลูกสายพันธุ์สุมาลีแทน ปัจจุบันจะมีแม่ค้าจากตลาดจะมาซื้อเป็นประจำในราคาส่ง กก.ละ 40 บาท และหลังจากที่ปลูกสละสุมาลีแล้ว ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น เพราะให้ผลผลิตสูง ราคาดี ตลาดต้องการ มีเท่าไรแม่ค้ามารับช์้อถึงสวนทันที
ศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการสาวสวยฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย บอกว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ฟอร์ด ประเทศไทย มีความมุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกรูปแบบ รวมถึงงานเกษตรกรรมอันเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจไทย จึงพร้อมนำเสนอฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นย่อยในกลุ่ม XL และ XLS ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่อันเหนือชั้น ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้งานเกษตรกรรมอย่างสมบุกสมบัน และเทคโนโลยีอัจฉริยะอื่น ๆ เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบาย ในราคาที่ดีและคุ้มค่าที่สุดในตลาด โดยฟอร์ดหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้เกษตรกรชาวไทยประสบความสำเร็จในการทำเกษตรกรรมและพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างยั่งยืน”
และแล้วงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา ดุจเดียวกับทริป “แกร่ง..ทุกสวนเกษตร” ก็มีวันสิ้สุด คณะของเราเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพในช่วงเย็ตของวันที่สองของทริปนี้นั่นเอง