สทนช. ติดตามการจัดสรรน้ำในทุกลุ่มน้ำ ทั่วประเทศ เผยลุ่มน้ำเจ้าพระยาจัดสรรเกิ นแผนค่อนข้างมาก จากผลกระทบของการปลูกข้าวนาปรั งรอบที่ 2 โดยจะบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ ยวข้องควบคุมการจัดสรรน้ำอย่ างใกล้ชิด พร้อมเตรียมเสนอ (ร่าง) มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2567 ในการประชุม กนช. ปลายเดือนนี้
นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ (สทนช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมติ ดตามและประเมินสถานการณ์น้ำ ประจำสัปดาห์ ณ อาคารจุฑามาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567) ว่า ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ ในสภาวะเอลนีโญกำลังปานกลาง โดยในภาพรวมยังคงมีปริมาณฝนน้อย แต่ในช่วงที่ผ่านมามี ฝนตกมากในบางพื้นที่ เช่น จ.จันทบุรี จ.ตราด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้ขอให้ประชาชนเฝ้ าระวังสถานการณ์พายุฤดูร้อน ถึงแม้ปริมาณฝนจะตกไม่มากนัก แต่ ความแปรปรวนของสภาพอากาศอาจส่ งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัย ทรัพย์สิน รวมถึงผลผลิตทางเกษตรได้ ทั้งนี้ สภาวะเอลนีโญมีแนวโน้มจะอ่ อนกำลังลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะกลับเข้าสู่ สภาวะปานกลางในช่วงประมาณเดือน เม.ย. – มิ.ย. 67 ก่อนที่จะมีแนวโน้มเปลี่ยนเข้ าสู่สภาวะลานีญาในช่วงฤดูฝนนี้ ส่งผลให้มีปริมาณฝนค่อนข้างมาก
ขณะนี้ สทนช. ได้เตรียมพร้อม (ร่าง) มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 และจะเสนอต่อคณะกรรมการทรั พยากรน้ำแห่งชาติ ในวันที่ 27 มี.ค. นี้ สำหรับสถานการณ์แหล่งน้ำทั่ วประเทศ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำทุกแห่ง รวม 52,313 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 64% ของความจุ โดยขณะนี้อ่างเก็บน้ำในลุ่มน้ำ เจ้าพระยามีการจัดสรรน้ำเกินกว่ าแผนที่วางไว้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเขื่อนสิริกิติ์ที่อยู่ ในเกณฑ์น้ำน้อย ซึ่งเป็นผลกระทบจากการปลูกข้ าวนาปรังรอบที่ 2 แต่ยังคงมีปริมาณน้ำสำรองสำหรั บการทำนาของทุ่งบางระกำในช่ วงเดือน เม.ย. นี้ ทั้งนี้ สทนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้ องจะมีการควบคุมการจัดสรรน้ำ ของลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิ ด
ในส่วนของสถานการณ์ลุ่มน้ำแม่ กลอง ขณะนี้มีผลการจัดสรรน้ำใกล้เคี ยงกับแผนที่วางไว้และมีปริมาณน้ำ เพียงพอ โดยในวันนี้ได้มี การทบทวนแผนการระบายน้ำของเขื่ อนวชิราลงกรณ เพื่อระบายน้ำมาช่วยควบคุมค่ าความเค็มบริเวณ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม และ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ให้มีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ มาตรฐานสำหรับการอุปโภค บริโภค และการเกษตร ในขณะที่เขื่อนศรีนครินทร์ แม้จะมีปริมาณน้ำไม่มากนัก แต่ยังคงเพียงพอสำหรับการใช้น้ำ ในกิจกรรมต่าง ๆ และจะมีการระบายน้ำมาช่วยเสริ มปริมาณน้ำในลุ่มน้ำท่าจีนหรื อลุ่มน้ำเจ้าพระยาด้วย
ทางด้านลุ่มน้ำภาคตะวันออก สถานการณ์ในภาพรวมมีปริมาณน้ำ เพียงพอและมีการจัดสรรน้ำเป็ นไปตามแผน โดยจะมีการจัดสรรน้ำบางส่ วนจากเขื่อนบางพระไปช่วยเหลื อในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวั งปัญหาคุณภาพน้ำ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีอ่างฯ ที่จัดสรรน้ำเกินแผนอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนนฤบดินทรจินดาและเขื่ อนคลองสียัด ซึ่ง สทนช. ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน การนิคมอุตสาหกรรม ไปจนถึงบริษัทผู้บริหารจัดการน้ำ ให้มีการบริหารจัดการน้ำให้เป็ นไปตามแผนอย่างเคร่งครัด
“สำหรับเรื่องสถานการณ์น้ำเค็ม ขณะนี้สามารถควบคุมค่าความเค็ มในแม่น้ำหลัก 4 สาย ได้ตามแผนที่วางไว้ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังน้ำ ทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำ ในช่วงวันที่ 7 – 13 มี.ค. นี้ ตามที่ สทนช. ได้แจ้งเตือนล่วงหน้า ซึ่งจะมีการเพิ่มการระบายน้ำ ในบางจุดเพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้ ได้มาตรฐานและปลอดภัยสำหรั บประชาชน นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่ติดตามพื้นที่เสี่ ยงได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุ นสูงบริเวณ จ.สมุทรสาคร โดยได้หารือร่วมกับกรมโยธาธิ การและผังเมือง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการกำหนดแผนแก้ไขปัญหาจุดที่ ไม่มีคันกั้นน้ำ โดยได้มีการสร้างแนวป้องกันชั่ วคราวเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น และจะมีการเสนอของบประมาณดำเนิ นโครงการเพื่อแก้ไขปั ญหาในระยะยาวต่อไป” รองเลขาธิการ สทนช. กล่าว
นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า ในช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 สทนช. ยังคงลงพื้นที่เพื่อติดตามป้ องกันและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อการอุปโภค บริโภค และปัญหาคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่ อง ซึ่งขณะนี้มีการลงพื้นที่ไปแล้ วจำนวน 25 จังหวัด เพื่อเข้าช่วยเหลือและแก้ไขปั ญหาในช่วงฤดูแล้งนี้ รวมทั้งนำข้อมูลสภาพปัญหาในแต่ ละพื้นที่ที่ได้ จากการสำรวจมาใช้สำหรับจั ดทำแผนเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่ งยืนในภาพรวมทั่วประเทศต่อไป ทั้งนี้ สทนช. ได้ขอให้ทุกหน่วยงานการควบคุ มการใช้น้ำและบริหารจัดการน้ำ ในช่วงฤดูแล้งนี้ให้มีความสมดุ ลในภาพรวมและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค พร้อมเน้นย้ำให้มีการบริหารจั ดการน้ำตามความเห็ นชอบของคณะกรรมการลุ่มน้ำ ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561