ดลมนัส กาเจ

จากการที่หญิงแกร่งแห่งบางปะกง “จรินทร์ ขำการะเกตุ” หรือ “เอ้”  เจ้าของ “จรินทร์ฟาร์ม” ที่ ต.หอมศิล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เกิดมาในครอบครัวที่เลี้ยงกุ้งกุลาดำ ต่อมากุ้งขาวแวนนาไม ทำให้เธอคิดนอกกรอบมาต่อยอดบ่อกุ้งเก่า มาเลี้ยงกุ้งฝอย เน้นขายพ่อพันธุ์- แม่พันธุ์ ขายนับตัวราคาตัวละ 3 บาท ส่งขายทั่วไทยตกเดือนละ 5 หมื่นตัวสร้างรายได้ตกเดือนละ 1.5 แสนบาท ขณะเหลือบางส่วนแช่แข็งส่งขายให้ผู้ประกอบการเลี้ยงปลาสวยงามจำพวกปลามังกร โรงงานขายในราคากิโลกรัมละ 200-300 บาท

จรินทร์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ เป็นพนักงานของบริษัทเอกชน ในตำแหน่งเป็นเซลล์ขาย “หลังคา”(แผ่นห้องเย็น) มีรายได้เดือนละกว่า 2 หมื่น ส่วนที่บ้านเดิมครอบครัวเลี้ยงมาก่อนทั้งเลี้ยงกุ้งกุลาดำ และกุ้งขาวแวนนาไม เลยคุ้นเคยกับการเลี้ยงกุ้ง ในระหว่างที่ให้อาหารกุ้งจะสังเกตเห็นกุ้งฝอยในบ่อจำนวนมาก ขณะที่ตลาดต้องการกุ้งฝอยจำนวนมาก เพราะเป็นที่นิยมบริโภคและเป็นอาหารปลาสวยงาม ในที่สุดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาเลี้ยงกุ้งฝอยเน้นขายพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์เพราะคนต้องการเลี้ยงจำนวนมากโดยสื่อออนไลน์มาเปิดตลาด

หลังจากที่เลี้ยงแล้วพบว่าเลี้ยงง่ายมากไม่ต้องดูแลมากเหมือนกุ้งขาวฯ และไม่ต้องคอยพะวงเรื่องกุ้งราคาตก แถมยังประหยัดค่าไฟไม่ต้องตีน้ำมากเหมือนกุ้งขาว ประหยัดค่ายา ค่าปัจจัยการผลิตอีกหลายอย่างที่ใช้ในการกุ้งขาวฯ และจากการศึกษาพบว่ากุ้งฝอยเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วไป และเลี้ยงกันมากแถบภาคอีสาน แต่ภาคตะวันออกยังไม่มีคนเลี้ยงเลยลองดูปรากฏว่าตลาดสนใจมาก มีคนสั่งจองไม่ขาดสายขายพ่อพันธุ์- แม่พันธุ์ ในราคาตัวละ 3 บาท ปัจจุบันเลี้ยงทั้งหมด 8 บ่อขนาดบ่อละ 1-2 ไร่ ในแต่ละเดือนจะขายได้ราวๆ 5 หมื่นตัวหรือเป็นเดือนละ 1.5 แสนบาทหักค่าใช้จ่ายมีรายได้ดีกว่างานประจำอีก

การเลี้ยงกุ้งฝอยเลี้ยงในดินขนาด 1-2 ไร่ จำนวน 8 บ่อ ปล่อยกุ้งจะปล่อยไร่ละ 10,000 ตัว อาหารที่ใช้เลี้ยงกุ้งฝอยในช่วงตัวเล็กจะให้รำเป็นหลัก ซึ่งบ่อดินจะมีทั้งกุ้งเล็กและกุ้งใหญ่ จึงให้รำ 1 กก. ผสมอาหารเม็ดโปรตีน 38% ครึ่ง กก. ให้วันละ 1 มื้อเท่านั้น พอเลี้ยงกุ้งได้ 3 เดือน จะใช้ลอบ หรือ ไอ้โง่ วางไว้อยู่เป็นระยะ ในเวลากลางคืนเพื่อทยอยดักจับกุ้ง แล้วมาเก็บผลผลิตตอนเช้า นอกจากนี้จะใช้ยอเล็กสำหรับการเช็กดูอาหารในช่วงเช้า ดูว่ากุ้งกินอาหารหมดแล้วยัง หากหมดรอบต่อไปก็ต้องเพิ่มอาหารตามสัดส่วน แต่เฉลี่ยแล้วต้นทุนค่าอาหารวันละ 80 บาทต่อ 1 บ่อ มีเสริมแร่ธาตุพวกแคลเซียม 1 ถุง (20 กก.) เดือนละครั้ง ปัจจุบันสามารถจับกุ้งขายได้ทุกวันจาก 8 บ่อ โดยหมุนเวียนกันไป

ที่จริง จรินทร์ บอกว่า สามารถเลี้ยงได้ในบ่อซีเมนต์หรือบ่อพลาสติก ถ้าบ่อปูนจะใช้ขนาด 1.5×1 เมตร สามารถใช้น้ำประปา น้ำบาดาลเลี้ยงได้เลย ใส่น้ำสูง 50 ซม. ปล่อยน้ำพักในบ่อ 7 วัน เพื่อให้น้ำปรับสภาพและสร้างแพลงก์ตอน แล้วใส่วัชพืชพวกผักบุ้ง จอก แหน เข้าไปเล็กน้อย และให้ออกซิเจนเพิ่มบ้าง เพื่อช่วยให้เกิดแพลงก์ตอน จากนั้นปล่อยแม่พันธุ์กุ้งฝอย 500 ตัว

หลังจากปล่อยแม่พันธุ์ลงบ่อ 7 วัน เมื่อแม่พันธุ์ออกลูกแล้ว ต้องย้ายแม่พันธุ์ออกจากบ่อเลี้ยง เพื่อไม่ให้กินลูกกุ้งเล็ก แม่พันธุ์ที่ย้ายไปจะสามารถให้ลูกทุก 15 วัน โดยในแม่กุ้ง 1 ตัว ออกไข่ได้ครั้งละราว 80 ฟอง ส่วนอาหารลูกกุ้งในช่วงแรกจะให้อาหารอ่อนๆ อย่างพวกไข่แดง ข้าวสุก พออายุได้สัก 15-20 วัน เปลี่ยนมาให้อาหารเม็ด เลี้ยงต่อไป 2.5-3 เดือน สามารถจับขายได้แล้ว แต่ถ้าต้องการเลี้ยงขายพ่อ-แม่พันธุ์ต้องใช้เวลา 4-5 เดือน

เธอ บอกอีกว่า กุ้งอีกส่วนหนึ่งก็ตลาดมีทั้งพ่อค้าแม่ขายซื้อไปทำเมนูกุ้งเต้น ตลาดปลาสวยงามที่ใช้กุ้งเป็นอาหารปลา นอกจากนี้ยังมีออเดอร์จากโรงงานสเน็คส่งออก ที่นำไปส่วนประกอบขนมขบเคี้ยว โดยราคาขาย กก.ละ 200-300 บาท สนใจสอบถามที่จรินทร์ฟาร์ม ต.หอมศิล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หรือโทร.08-1308-0363 (รายละเอียดในคลิป)