เริ่มแล้ว!! รอบปฐมฤกษ์ส่งออก “ผลิตภัณฑ์เนื้อเป็ดปรุงสุก” ไปยังแดนจิงโจ้ ภายใต้ความร่วมมือของกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ และซีพีเอฟ พร้อมจัดพิธีปล่อยตู้คอนเทนเนอร์ “เป็ดแปรรูป ตู้ปฐมฤกษ์”” ของไทยไปออสเตรเลีย เผยเป็นตู้แรกในประวัติศาสตร์ หลังเจรจายาวนานถึง 8 ปี CPF วางเป้าส่งออกปีละ 500-600 ตัน จากทั้งหมด 1,200 ตัน
วันที่ 12 มิถุนายน 2566 กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ทำพิธีปล่อยคอนเทนเนอร์ “ผลิตภัณฑ์เนื้อเป็ดปรุงสุก” รอบปฐมฤกษ์ เป็นตู้แรกในประวัติศาสตร์จากประเทศไทยไปยังประเทศอสเตรเลีย โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน และมี น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ ร่วมปล่อย “ตู้ปฐมฤกษ์เป็ดปรุงสุก” ออกจากโรงงานของซีพีเอฟ ณ โรงงานแปรรูปไก่เนื้อ มีนบุรี 2
นอกจากนี้มีผู้บริหารของกรมปศุสัตว์ และซีพีเอฟร่วมด้วย อาทิ น.สพ.โสภัชย์ ชวาลกุล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสิริพงศ์ อรุณรัตนา ประธานผู้บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจสัตว์บก ซีพีเอฟ นายเอกปิยะ เอื้อวุฒิเกริก ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CPFGS มาร่วมงานด้วย
นายประยูร กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีส่งออก “เป็ดแปรรูป ตู้ปฐมฤกษ์” ของไทยไปออสเตรเลีย ว่าการเปิดตลาดเป็ดปรุงสุก ในออสเตรเลีย ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของไทย โดยเป็นประเทศแรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติ ให้ส่งออกสินค้าเป็ดพร้อมทานไปออสเตรเลีย ซึ่งมีความเข้มงวดในการรับรองความปลอดภัยสินค้าเกษตรสูงมาก จากความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และ เอกชน ในการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์เป็ดปรุงสุกจากไทยตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน
ด้าน น.สพ.สมชวน กล่าวว่า การเปิดตลาดเป็ดปรุงสุกในออสเตรเลียเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของไทย นับเป็นประเทศแรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติให้ส่งออกสินค้าเป็ดพร้อมทานไปออสเตรเลีย ซึ่งมีความเข้มงวดในการรับรองความปลอดภัยสินค้าเกษตรสูงมาก จากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์เป็ดปรุงสุกจากไทยตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน และการเจรจาระหว่างรัฐบาลสองประเทศมาอย่างต่อเนื่องตลอด 7 ปีตั้งแต่ปี 2559 การเปิดตลาดออสเตรเลียถือเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพเป็ดปรุงสุกของไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และพร้อมแข่งขันในเวทีตลาดโลก ปัจจุบันเราส่งออกสินค้าเป็ดปรุงสุกไปหลายประเทศทั่วโลก อาทิ อียู ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เป็นต้น คาดว่า การส่งออกเป็ดปรุงสุกไปออสเตรเลียในช่วงปีแรก ประมาณ 1,200 ตัน จะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศได้ประมาณ 400 ล้านบาท (11.86 ล้านเหรียญสหรัฐ)
“ขอแสดงความยินดีกับซีพีเอฟในฐานะเป็นผู้ประกอบการรายแรกของประเทศไทยที่ได้รับอนุมัติให้ส่งออกเป็ดปรุงสุกไปยังตลาดออสเตรเลีย โดยผ่านการตรวจสอบด้านคุณภาพและความปลอดภัยระดับโลกจากกรมปศุสัตว์ และทางการออสเตรเลีย เป็นการยกระดับมาตรฐานการผลิตเป็ดปรุงสุกของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในเวทีการค้าโลก” น.สพ.สมชวนกล่าว
ขณะที่นายประสิทธิ์ กล่าวว่า การส่งออกเป็ดปรุงสุกล็อตแรกไปออสเตรเลียครั้งนี้ เป็นการขยายตลาดผลิตภัณฑ์เนื้อเป็ดปรุงสุกของบริษัทฯ ยังสะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการของไทยมีศักยภาพในการพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานในระดับโลก ออสเตรเลียเป็นตลาดที่มีศักยภาพ บริโภคเนื้อเป็ดประมาณ 50,000 ตันต่อปี และมีความต้องการเป็ดปรุงสุกพร้อมทานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซีพีเอฟเล็งเห็นโอกาสในตลาดดังกล่าว สินค้าเป็ดปรุงสุกตู้แรกวันนี้จะขนส่งทางอากาศไปยังออสเตรเลียเพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยตั้งเป้าประมาณ 500-600 ตันต่อปี สำหรับสินค้าที่ส่งออกได้แก่ เป็ดย่าง เป็ดฉีก เป็ดย่างพร้อมแผ่นแป้ง เป็นต้น ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวออสเตรเลีย
“บริษัทฯ ขอขอบคุณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านอธิบดีกรมปศุสัตว์ ท่านรองอธิบดี และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ความร่วมมือประสานงาน จนสามารถผลักดันการเปิดตลาดสินค้าเป็ดปรุงสุกไปออสเตรเลียได้สำเร็จ ไม่เพียงส่งผลดีต่อการค้าระหว่างประเทศ ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของสินค้าปศุสัตว์ไทย และ ปัจจุบัน ซีพีเอฟ ยังมองหาโอกาสเปิดตลาดเนื้อเป็ดปรุงสุกไปยังตลาดอื่นๆที่มีศักยภาพต่อไป” นายประสิทธิ์กล่าว
ผลิตภัณฑ์เนื้อเป็ด และเป็ดปรุงสุกของซีพีเอฟได้รับการยอมรับจากลูกค้าห้างค้าปลีกชั้นนำในยุโรปและทั่วโลก และเชื่อมั่นตลอดห่วงโซ่การผลิตสินค้าอาหารของบริษัทฯ มีการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยอาหารตั้งแต่ อาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยง การแปรรูปเนื้อเป็ดเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมทาน ได้รับรองมาตรฐานระดับโลก อาทิ BRC SEDEX SMETA พร้อมทั้งทุกผลิตภัณฑ์อาหารของซีพีเอฟสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต ในปีที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ส่งออก ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้แก่ เยอรมนี อังกฤษ กลุ่มอียู ญี่ปุ่น สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ เป็นต้น