นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะโฆษกกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรระนอง ที่ได้ออกลาดตระเวนตรวจตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาร่วมกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง พบการลักลอบนำเข้ายางพาราในพื้นที่ โดยตรวจค้นภายในสวนปาล์ม บริเวณหมู่ที่ 7 ตำบลปากจั่น อำเภอกระบุรี พบยางพาราแผ่นดิบ จำนวน 615 กิโลกรัม พร้อมกับได้เข้าตรวจค้นบริเวณสวนปาล์มใกล้คลองลำเลียง พื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลลำเลียง อำเภอกระบุรี พบยางพาราแผ่นดิบจำนวน 1,560 กิโลกรัม และยางก้อนถ้วยจำนวน 1,885 กิโลกรัมซึ่งของกลางทั้งหมดได้ถูกยึดและอายัดไว้ ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอกระบุรีที่ 5 เพื่อตรวจสอบที่มาของยางพาราและดำเนินการแจ้งความเอาผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ.2542
“การจับกุมในครั้งนี้ พบยางพาราแผ่นดิบ จำนวน 2,175 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 141,375 บาท ยางก้อนถ้วย จำนวน 1,885 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 105,560 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 246,935 บาท ซึ่งตามพระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ.2542 มาตรา 52 การนำยางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยกรมวิชาการเกษตรจะดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้ายางพาราอย่างเข้มงวด เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคายางพาราในประเทศอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ” โฆษกกรมวิชาการเกษตร กล่าว