ข้าวตราฉัตรเปิดตัว“ข้าวตราฉัตรไลท์” ชวนคนไทย “ทานเท่าเดิม น้ำตาลน้อยลง”คาดโกยปีนี้ 250 ล.

  •  
  •  
  •  
  •  

“ข้าวตราฉัตร” เขย่าตลาดข้าว ด้วยการปลุกกระแสคนรักสุขภาพ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ข้าวเพื่อสุขภาพ “ข้าวตราฉัตรไลท์” พร้อมเปิดตัวหนังโฆษณา ชุด “Rice Is Happiness” ชวนคนไทยสนุกกับการกินเพิ่มความสุขให้คนกินข้าว กินข้าวได้ไม่ต้องกลัว ในคอนเซปต์ “ทานเท่าเดิม น้ำตาลน้อยลง” เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ตั้งเป้าหมายปิดปี 62 ขายได้กว่า 250 ล้านบาท

         ข้าวตราฉัตร ผนึกพันธมิตรเกษตรกรสมาชิก ภายใต้โครงการส่งเสริมการปลูกข้าว กข 43 กว่า 2,500 ราย บนพื้นที่ส่งเสริมฯ จำนวน 50,000 ไร่ ในปี 2562 รวม 2 ฤดูกาลผลิต ได้แก่ ฤดูนาปรัง 62 (ธ.ค.61-มี.ค.62) และ ฤดูนาปี 62 (พ.ค.-ส.ค.62) ในพื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก และพื้นที่อื่นๆ ในอนาคต ร่วมกับกรมการข้าว และเชื่อมโยงการตลาดกับกรมการค้าภายใน เขย่าตลาดปลุกกระแสคนรักสุขภาพ ด้วยการส่งผลิตภัณฑ์น้องใหม่ ข้าวเพื่อสุขภาพ “ข้าวตราฉัตรไลท์” สู่ตลาดผู้บริโภคทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัวหนังโฆษณา ชุด “Rice Is Happiness” ชวนคนไทยสนุกกับการกินเพิ่มความสุขให้คนกินข้าว กินข้าวได้ไม่ต้องกลัว ในคอนเซปต์ “ทานเท่าเดิม น้ำตาลน้อยลง” ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบัน เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ หรือคนที่ต้องการลดปริมาณน้ำตาลจากข้าวและอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน ตั้งเป้าหมายปิดปี 62 ด้วยยอดจำหน่ายข้าวตราฉัตรไลท์ทั่วประเทศคิดเป็นมูลค่า จำนวน 250 ล้านบาท ในตลาดข้าวเพื่อสุขภาพพร้อมทุ่มงบ 15 ล้านบาทเปิดกลยุทธ์ Sport Marketing Platform สนับสนุนการสร้างโภชนาการที่ดีในมื้ออาหารหลักให้กับนักกีฬาไทย เตรียมความพร้อมสู่การแข่งขันเวทีระดับโลก

       นายไตรรัตน์ อุดมศรีโยธิน  รองกรรมการผู้จัดการ งานพัฒนาวัตถุดิบต้นน้ำกล่าวว่า บริษัทฯ ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกข้าว กข 43 ร่วมกับกรมการข้าว และเชื่อมโยงการตลาด ร่วมกับกรมการค้าภายใน ผ่านสหกรณ์และเครือข่ายเกษตรกรสมาชิกกว่า 2,500 ราย ในเขตพื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก และพื้นที่อื่นๆ รวมพื้นที่ส่งเสริมฯ ทั้งหมด จำนวน 50,000 ไร่ ในปี 2562 (2 ฤดูกาลผลิต) ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าว จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องเกษตรกรสมาชิก ผู้ปลูกข้าวเพื่อสุขภาพ “ข้าวตราฉัตรไลท์” โดยที่บริษัทฯ จะรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรสมาชิกในโครงการฯ 100% ด้วยประกันราคาขั้นต่ำ 12,000 บาทต่อตัน (ความชื้นที่ 15%) จากเกษตรกรสมาชิกทุกราย ทำให้มั่นใจได้ว่า ผลผลิตที่ออกมามีตลาดรองรับที่แน่นอน ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่คอยดูแลและให้คำแนะนำ ตลอดช่วงกระบวนการผลิต และเทคโนโลยีระบบ laser land leveling ปรับระดับพื้นที่แปลงนา เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดความเสียหาย ทำให้เกษตรกรสมาชิกได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น และยังเป็นการลดต้นทุนอีกด้วย อีกทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมการข้าว เรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าวแท้ ที่ใช้ในกระบวนการปลูก นี่คือจุดแข็งของข้าวตราฉัตรไลท์ เพราะเราปลูกเอง จึงทำให้เราแตกต่างจากข้าวแบรนด์อื่นๆ นอกจากจะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง และยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ว่าจะได้รับประทานข้าวที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอนการผลิต

        ด้านนางสวณีย์ โพธิ์รัง  ตัวแทนเกษตรกรสมาชิก อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่าตนเคยมีประสบการณ์ในการปลูกข้าว กข 43 มาก่อนหน้านี้แล้วแต่เป็นการปลูกทดลองเพราะตอนนั้นไม่มีแหล่งตลาดรับซื้อภายหลังจากที่ภาคเอกชนได้เข้ามาแนะนำและเชิญเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการปลูกข้าว กข 43 ตนเป็นคนกล้าลองกล้าลุยสิ่งใหม่ๆ จึงตอบรับเข้าร่วมไม่ยาก เมื่อมีระบบเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการทุกๆ ขั้นตอนกระบวนการผลิต มีการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวทุกรอบการปลูกซึ่งข้อดีก็คือ ช่วยลดปัญหาข้าวพันธุ์ปน ส่งผลให้คุณภาพข้าวที่ได้สม่ำเสมอในเรื่องค่าดัชนีน้ำตาลปานกลางค่อนข้างต่ำ ตรงตามมาตรฐาน ราคาจำหน่ายก็ดี ที่สำคัญบริษัทฯ ตอบโจทย์ในสิ่งที่ตนต้องการ คือ เป็นแหล่งตลาดรับซื้อวัตถุดิบทั้งหมดจากเกษตรกรสมาชิก 100% ตามประกันราคาที่ตกลงไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งรอบแรกที่ปลูกในพื้นที่ส่งเสริมฯ คือ รอบฤดูนาปี 61 จำนวนพื้นที่ 34 ไร่ ผลผลิตที่ได้ จำนวน 850 กก./ไร่ และรอบปัจจุบันถือเป็นการปลูกข้าว กข43 ครั้งที่ 2 คือ รอบฤดูนาปรัง 62 เพิ่มพื้นที่ปลูกเป็น จำนวน 55 ไร่

        ขณะที่นางวันดี เกตุทอง  ตัวแทนเกษตรกรสมาชิก อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลกกล่าวว่า ตนและสมาชิกกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ อ.พรหมพิราม เคยผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กับกรมการข้าวมาก่อน เดิมทีตนและสมาชิกกลุ่มฯ ปลูกข้าวขาว แต่ราคาข้าวขาวในตลาดค่อนข้างต่ำ ไม่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของกลุ่มฯ จึงพยายามหาวิธีอื่นๆ ที่ตอบโจทย์ จนบริษัทฯ ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม ได้เข้ามาแนะนำและเชิญเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการปลูกข้าว กข43 และบริษัทฯ เป็นตลาดรองรับผลผลิตของเกษตรกรสมาชิกทุกราย 100% และให้ผลตอบแทนดี จึงได้เข้าร่วมโครงการฯ เพราะตนและกลุ่มฯ เป็นคนชอบทำนา อยู่แล้ว

        ส่วนนายยงยุทธ พฤกษ์มหาดำรง  รองกรรมการผู้จัดการ ดูแลธุรกิจข้าวภายในประเทศกล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การบริโภคของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไป มีการเลือกซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ข้าวตราฉัตรเล็งเห็นโอกาสทางการตลาด ปลุกกระแสคนรักสุขภาพ ด้วยการส่งผลิตภัณฑ์น้องใหม่ ข้าวเพื่อสุขภาพ “ข้าวตราฉัตรไลท์” สู่ตลาดผู้บริโภคทั่วประเทศ

           “ข้าวตราฉัตรไลท์”ข้าวเพื่อสุขภาพ กข43 เป็นข้าวดัชนีน้ำตาลปานกลางค่อนไปทางต่ำ เป็นพันธุ์ข้าวที่ผ่านการคัดเลือกจากการผสมข้าวพันธุ์ลูกผสมเดี่ยว ระหว่างพันธุ์ข้าวเจ้าหอมสุพรรณ (พันธุ์แม่) กับพันธุ์สุพรรณบุรี 1 (พันธุ์พ่อ) เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ หรือคนที่ต้องการลดปริมาณน้ำตาลจากข้าวและอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะหุงแล้วนุ่ม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ รับประทานง่าย ที่สำคัญเมื่อร่างกายรับประทานข้าวเข้าไป ก็จะเปลี่ยนแป้งไปเป็นน้ำตาลได้ช้าลง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และช่วยให้เราอิ่มนานขึ้นยด้วยนั่นเอง

 

                สำหรับหนังโฆษณา ชุด “Rice Is Happiness” จากโปรดักชั่นเฮ้าส์มืออาชีพอย่าง สุเนต์ตา เฮ้าส์ และเอเจนซี่สุดยอดครีเอทีฟ จากมานะ แอนด์ เฟรนด์ มาช่วยสร้างสรรค์และผลิตหนังโฆษณาชุดนี้ขึ้นมา โดยอยากชวนคนไทยให้สนุกกับการกิน เพิ่มความสุขให้คนกินข้าว กินข้าวได้ไม่ต้องกลัว ในคอนเซปต์ “ทานเท่าเดิม น้ำตาลน้อยลง” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนการตลาดส่งเสริมการขายข้าวตราฉัตรไลท์ บริษัทฯ ยังมีการวางกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้และตระหนักถึงการมีสุขภาพดี เริ่มต้นจากการบริโภคในชีวิตประจำวัน ผ่านสื่อผสมผสาน ไม่ว่าจะเป็น Above the line และ Below the line เพื่อสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

อีกทั้งยังมีช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค ผ่านห้างสรรพสินค้า ตัวแทนจำหน่ายรวมถึงการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ คาดว่าปิดสิ้นปี 62 ยอดจำหน่ายข้าวตราฉัตรไลท์ทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่าจำนวน 250 ล้านบาท