ไม่ต้องลดโปรตีน แต่ให้ลดแป้ง และน้ำตาล สิ่งสำคัญที่ทำลายสุขภาพของเรา คือปริมาณแป้ง และน้ำตาลจากอาหารอร่อยๆ ที่เราทานมากเกินไป จนพลังงานที่ไดรับมามันสูงเกินกว่าความจำเป็นของร่างกาย และเมื่อเราใช้พลังงานที่ได้จากอาหารเหล่านั้นไม่หมด ก็จะทำให้แป้ง และน้ำตาส่วนเกินแปรสภาพเป็นไขมันที่สะสมอยู่ตามหลายๆ ส่วนของร่างกาย ทั้งที่มองเห็นจากภายนอก และในอวัยวะภายในร่างกายอย่างตับ หรือหลอดเลือด เป็นต้น

ใช้สมุนไพรในการปรุงรสชาติ แทนที่เราจะกระหน่ำใส่น้ำตาล น้ำปลา น้ำส้มสายชู ในอาหารที่เราทาน ลองปรุงรสด้วยสมุนไพรที่มีกลิ่น และรสชัดเจนอย่างกระเทียม หัวหอม พริกไทย ใช้ความหวานจากผักผลไม้เข้าช่วย เช่น ต้มแกงจืดให้หวานด้วยกะหล่ำปลี หัวไชเท้า นอกจากรสชาติจะดีแล้ว ยังได้ประโยชน์จากสมุนไพรต่างๆ ที่เราใช้อีกด้วย แรกๆ เราอาจจะยังไม่ชินลิ้น และคิดว่าที่ทานอยู่รสจืดเกินไป แต่หากลองทานไปเรื่อยๆ เชื่อเถอะว่าลิ้นของคุณจะปรับตัวได้ และทานอาหารที่ปรุงรสชาติน้อยๆ ได้อร่อยมากยิ่งขึ้นไปเอง

ทานโปรตีนได้ แต่ก็ต้องทานผักด้วย ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเนื้อมากแค่ไหน ก็ต้องเหลือพื้นที่ในกระเพาะอาหารเอาไว้ให้กับผักผลไม้ด้วย เพราะหากทานแต่เนื้อสัตว์มากๆ นอกจากสารอาหารที่ได้จะไม่ครบแล้ว ระวังเรื่องของการขับถ่ายที่จะทำให้เราทรมานจนต้องร้องขอชีวิต อยากถ่ายง่ายถ่ายสะดวก เลือกทานโปรตีนคู่กับผักในปริมาณที่ใกล้เคียงกันในแต่ละมื้อ จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบครันมากยิ่งขึ้น และยังไร้กังวลเรื่องการขับถ่ายจากใยอาหารของผักและผลไม้อีกด้วย

เลือกทานไขมันจากพืชแทนไขมันจากสัตว์ นอกจากเรื่องของแป้ง และน้ำตาลแล้ว คงจะสงสัยถึงเรื่องไขมันด้วยว่า ทานไขมันอย่างไรไม่ให้เสียสุขภาพ คำตอบคือไขมันจากพืช เช่น น้ำมันพืช น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันเหล่านี้ใช้ปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนเร็วๆ ดังนั้นเราควรลดการทานอาหารทอดทั้งชิ้นที่ต้องใช้น้ำมันในการทอดเป็นเวลานานลงไปด้วย

ขนอกจากการปรับวิธีการทานอาหารแล้ว อย่าลืมเป็นประจำ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอด้วย หากทำได้ดังนี้แล้ว สุขภาพของคุณจะดีขึ้นโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องทนกินคลีน หรือกินมังสวิรัติที่คุณไม่ชอบแน่นอน แต่หากใครที่ติดใจการกินคลีน และสามารถกินมังสวิรัติได้สบายๆ ก็ขอให้ทำต่อไป เพราะนับว่าเป็นเรื่องดีๆ ที่คุณทำได้ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไร เพียงแต่พยายามทานโปรตีนจากพืชให้มากพอกับความต้องการของร่างกายก็พอ