ปิดขายสดๆ วันแรก สวนแทบแตกเพียง 30 ต้น โกยเงินกว่า 2 หมื่นบาทต่อวัน หนุ่มใหญ่ เกษตรกรชาวตำบลอีเซ ชื่อนายประนอม ไชยโคตรอายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 32 ม.1 บ้านแสง ต.อีเซ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ ที่สร้างปรากฏการณ์ ฮือฮาพลิกฟื้นผืนนา ซึ่งเป็นดินป่าบุ่งป่าทาม ริมอ่างน้ำห้วยทับทัน ทำสวนผลไม้
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สวนผลไม้ ทางทิศตะวันตกหมู่บ้าน ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร บริเวณพื้นที่อ่างเก็บน้ำริมห้วยทับทัน พบเห็นชาวบ้าน ลูกเล็กเด็กแดง ตลอดทั้งข้าราชการมาเข้าแถวอุดหนุนซื้อเงาะโรงเรียน ทีเก็บกันสดๆจากสวน ในราคา 3 กิโลกรัม 100 บาท ทุกคนที่มาเห็นต่างชื่นชมในความคิดและเชื่อแล้วว่า เงาะก็สามารถปลูกที่บ้านเราได้ ขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างเดินชมสวน พร้อมชิมไปจนพุงกาง ซึ่งเจ้าของสวนก็อนุญาตให้เดินเก็บกินได้ สร้างความประทับใจและตื่นเต้นแก่พี่น้องในพื้นที่อย่างมาก
นายประนอม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเคยไปรับจ้างเก็บเงาะที่เมืองจันทร์บุรี ก่อนที่จะมาเกิดแรงบันดาลใจใส่ใจกับที่ดินของตนที่บ้านเกิด ตนมีพื้นที่ดินประมาณ 15 ไร่ ดินส่วนใหญ่เป็นดินทาม ลักษณะเป็นดินทรายและมีดินร่วนปนส่วนน้อย ถึงฤดูแล้งจะแห้งอุ้มน้ำไม่อยู่หากถึงฤดูฝนจะเหนียวลื่น ตนได้แบ่งพื้นที่ปลูกยางพารา 13 ไร่ ที่เหลือ 2 ไร่ ปล่อยเป็นป่ารกแต่ตนได้สังเกตเห็นว่าดินทาม เมื่อมีต้นไม้ปกคลุมดินจะสดชื่นอุ้มน้ำได้ตลอดเช่นกัน จึงมีแนวคิดว่าหากหันมาเริ่มทำการปลูกผลไม้ในพื้นที่ของตนที่เหลือ 2 ไร่ ก็น่าจะทำได้
จากความคิดบวกกับความตั้งใจ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 เป็นต้นมาจึงเริ่มทำการปรับปรุงพื้นที่ 2 ไร่ก่อน จากนั้นนำร่องด้วยสวนพริกและเริ่มซื้อต้นเงาะมาปลูกประมาณ 50 ต้น ช่วงนั้นซื้อต้นเงาะในราคา 3 ต้น100 บาท ปลูกแซมกับต้นพริก ใช้ความกว้าง 3 X 6 เมตร บางต้นก็ชิดกันกว่านั้น การปลูกเงาะในช่วงเริ่มแรกตนได้ดูแลสวนพริกไปด้วย หลังต้นเงาะสูงใหญ่จึงหยุดการปลูกพริกหันมาดูแลต้นเงาะ โดยใช้ปุ๋ยมูลสัตว์จากคอกวัวคอกควายที่ตนเลี้ยงไว้ ต้นเงาะเริ่มเจริญเติบโตมาเรื่อยๆ ถึงฤดูแล้งตนก็ใช้เครื่องสูบน้ำ ดึงน้ำจากอ่างลำห้วยทับทัน ต่อท่อพีวีซีรดตามโคนต้นก็ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด
แต่ปัญหาที่พบคือช่วงน้ำหลาก บางปีน้ำท่วมขังทำให้ต้นเงาะอีกส่วนหนึ่งตาย ปัจจุบันเหลือเพียง 30 ต้น มาในปี พ.ศ. 2550 เงาะเริ่มให้ผลผลิตครั้งแรกแต่ไม่ค่อยดี มีชาวบ้านมาขอซื้อเริ่มขายได้ประมาณ 4,000 – 5,000 บาท เงาะมาเริ่มให้ผลผลิตดีช่วงปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา ปัจจุบันเหลือต้นเงาะเพียง 30 ต้น ปลูกเป็น 3 แถว การขายจะมีชาวบ้านเข้ามาซื้อที่สวนและจะหมดในเวลา 2 วัน รายได้จากการขายเงาะอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาท ช่วงเปิดสวนขาย บรรยากาศภายในสวนจึงดูครึกครื้น ใครอยากเก็บกินอย่างไรตนไม่ว่า ทั้งซื้อทั้งแจก แถม เพราะไม่ได้ลงทุนอะไรมากมาย แรงงานก็มีญาติๆมาช่วยดูแลและมาช่วยเก็บและขาย ไม่เพียงเงาะโรงเรียนเท่านั้น ที่ดินของตนนั้น มีทั้ง มะไฟ มะนาว แก้วมังกร มะม่วง ทุเรียน และไม้ผลอื่นๆ
ลุงประนอม กล่าวทิ้งท้ายว่า ‘บ้านเรามีลำห้วยทับทันไหลผ่านอยู่แล้ว ขอให้ขยันทำกินรับรองไม่อดตาย และไม่จำเป็นต้องทิ้งบ้านเกิดไปรับจ้างที่ไกลๆ ก็มีอยู่มีกินได้’
ขณะที่นายสุวรรณ โสดา นากยก อบต.อีเซ ได้กล่าวว่า ตอนนี้พี่น้องตำบลอีเซส่วนหนึ่งกำลังระดมทุน จัดทำวิสาหกิจล่องแพท่องเที่ยงเชิงนิเวศลำห้วยทับทัน เพื่อเป็นการสร้างพลังใจให้คนในท้องถิ่นเห็นค่าของทรัพยากรและน้อมนำแนวทางศาสตร์พระราชาของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 มาใช้ให้เกิดความยั่งยืนในชุมชน การเที่ยวชมสวนผลไม้ ซึ่งมีเกษตรกรหลายรายทำกันอยู่ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะดึงนักท่องเที่ยวให้มาสนใจตำบลอีเซ ทำให้เกิดรายได้สู่ครอบครัวมากขึ้นต่อไป
ที่มา : แนวหน้า