รัฐสั่งรับมือสินค้าเกษตรร่วงกราว

  •  
  •  
  •  
  •  

 

ไลฟ์สดแจงราคาปาล์มไม่ตก จับตา “ยาง-หมู-สับปะรด-ไข่”
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้กำชับให้กระทรวงเกษตรฯประสานกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อเตรียมรับมือผลผลิตด้านการเกษตรที่จะออกสู่ตลาดจำนวนมาก เนื่องจากกลัวว่าสินค้าบางชนิดจะเน่าเสียก่อนที่จะขนส่งไปถึงมือผู้บริโภค โดยให้เฝ้าระวังผลผลิตด้านการเกษตรจำนวน 6 สินค้า ได้แก่ ลำไย ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 สับปะรดโรงงาน สุกรน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม ไข่ไก่สดเบอร์ 3 และไก่รุ่นพันธุ์เนื้อ ส่วนสินค้าเกษตรที่ราคาตกต่ำที่ต้องเฝ้าระวัง คือ ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3, สับปะรดโรงงาน, สุกรน้ำหนักเกิน 100 กก., ไข่ไก่สดเบอร์ 3

ด้านนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยระหว่างการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก “ประชาสัมพันธ์ กรมการค้าภายใน” ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำในขณะนี้ว่า หลังวันที่ 15 มี.ค.61 ผลปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้ราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์มดิบลดลงเร็วเหลือ กก.ละ 3.30 บาท และ 19 บาท และและมีแนวโน้มที่ราคาจะลดลง

ดังนั้น กรมจึง ได้หารือผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม เพื่อออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าราคาสินค้าและบริการ เมื่อ 23 มี.ค.61 กำหนดราคารับซื้อน้ำมันปาล์มดิบไม่ต่ำกว่า กก.ละ 19.00 บาท ซึ่งจะส่งผลให้ราคาผลปาล์มน้ำมันอยู่ที่ กก.ละ 3.30-3.40 บาท จากนั้นกรม ได้ตรวจสอบการรับซื้อในพื้นที่แหล่งผลิตปรากฏว่ามีการปรับราคารับซื้อ ผลปาล์มสูงขึ้นเป็น กก.ละ 3 บาท และปัจจุบันราคาผลปาล์มสุก ในแหล่งผลิตสำคัญ กก.ละ 3.10-3.40 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าต้นทุนผลิตที่ กก.ละ 3 บาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ไลฟ์สดอยู่สดอยู่นั้น มีเกษตรกรเข้ามาคอมเมนต์เป็นจำนวนมากว่าไม่สามารถแก้ไขราคาได้จริง รวมทั้งไม่มีใครขายได้เกิน 3 บาท ขายได้อย่างเก่งแค่ 2 บาทกว่าเท่านั้น.

 

ที่มา :  ไทยรัฐ