โดย…ดลมนัส กาเจ
“นิตยา สุสวรรสันติชัย” สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจผักปลอดภัยบ้านป่ากล้วย ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็น 1 ใน 5,000 ราย ของเกษตรกรบนที่สูงที่ร่วม “โครงการเพาะดี กินดี” ของบริษัทซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จำกัด ร่วมกับมูลนิธิรักษ์ไทย ที่สนัยสนุนเกษตรกรบนที่สูงในภาคเหนือปลูกพืชผักปลอดภัย เธอเลือกปลูกมะเขือเทศกินผลสด ล่าสุดได้พันธุ์ “คารูมิ” จากญี่ปุ่นที่มีคุณสมบัติเพิเศษพิเศษ ผลผลิตดอกต้นละถึง 3 กก. เปลือกผลสีเขียวอมเหลืองรสขาตอร่อย หวาน กรอบ เปรี้ยวนิด ราคาดีเป็นที่ต้องการของลูกค้า แต่เมล็ดแพง เมล็ดละ 27 บาท
นิตยา บอกว่า เธอปลูกมะเขือเทศมาตั้งแต่ต้น ล่าสุดหลังจากที่ร่วมโครงการเพาะดี กินดี ได้รับใบรับรองมาตรฐาน GAP เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือใบเบิกทางสำคัญในการเพิ่มโอกาสทางการตลาด ตอนนี้เราปลูกมะเขือเทศเชอรี่หลากสี สายพันธุ์พรีเมียมอย่าง ‘มันเดย์’ (Monday) และ ‘ชูการ์มูน’ (Sugarmoon) ที่ต้องใช้ต้นทุนสูง เพราะเมล็ดพันธุ์เฉลี่ยราคา 27–30 บาทต่อเมล็ด

นิตยา สุสวรรสันติชัย
ล่าสุดได้เลือกสายพันธุ์ใหม่ “คูรามิ” จากญี่ปุ่น มีคนในวงการค้าเมล็ดมะเขือเทศสายพันธุ์ต่างประเทศมาแนะนำเลยซื้อเมล็ดมาในราคาเมล็ดละ 27 บาท ลองปลูกรุ่นแรกดูเหมือนว่าคุมเพราะ 1 ต้นจะได้ผลผลิตถึง 3 กิโลกรัม ขายได้ราคากิโลกรัมละ 100 บาทเป็นที่ต้องการของตลาดเพราะรสชาตดี อร่อย หวานกรอบ มีเปรี้ยวนิดๆ

“หลังจากที่ได้ร่วมโครงการเพาะดี กินดี จะมีเจ้าหน้าที่นักวิชาการเข้ามาช่วยให้ความรู้ตั้งแต่การเตรียมดิน การให้ปุ๋ย ไปจนถึงแนวทางการปลูกที่ปลอดภัยต่อทั้งผู้ปลูกและผู้บริโภค ส่งผลให้ผลผลิตมีคุณภาพสม่ำเสมอและเป็นที่ยอมรับของตลาด ทำให้เรากล้าลงทุนเพิ่มขึ้น เพราะมีผู้รับซื้อที่เชื่อมั่นในมาตรฐานผลผลิตมีมีตลาดที่แน่นอน” นิตยากล่าว (รายละเอียดชมในคลิป)
