
กรมส่งเสริมการเกษตร ได้แจ้งเตือนมายังชาวนาว่า “หนาวแล้ว…ระวังข้าวกระทบหนาว” ระบุให้ประเมินสถานการณ์ว่า ถ้าหากอุณหภูมิต่ำกว่า 20 °C จะทำให้นาข้าวและผลผลิตได้รับผลกระทบจากอากาศหนาว จึงขอให้เกษตรกรติดตามสถานการณ์และสำรวจสังเกตในนาข้าวอย่างใกล้ชิด พร้อมแนะในการดูแลอย่างถูกวิธี
จากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวปี 2568 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568
กอปรกับอุณหภูมิในช่วงนี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการคาดการณ์อากาศในเดือนธันวาคม 2568 ว่า ในพื้นที่ภาคเหนืออุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ 16 -18 °C ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะอยู่ที่ 17 -19 °C ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรประเมินสถานการณ์ว่าถ้าหากอุณหภูมิต่ำกว่า 20 °C จะทำให้นาข้าวและผลผลิตได้รับผลกระทบจากอากาศหนาว จึงขอให้เกษตรกรติดตามสถานการณ์และสำรวจสังเกตในนาข้าวอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อแปลงปลูกข้าวของตน โดยพี่น้องเกษตรกรควรปฏิบัติ ดังนี้

ผลกระทบและความเสียหายต่อนาข้าว ระยะกล้า ต้นข้าวจะชะงักการเจริญเติบโต แคระแกร็น ใบเหลือง และอาจทำให้หยุดการเจริญเติบโต ระยะแตกกอ ในช่วงนี้อาจเกิดโรคใบจุดสีน้ำตาล ระบาด ถ้าพบให้รีบจัดการ ระยะตั้งท้องถึงระยะออกดอก ในช่วงอุณหภูมิ 15 – 17 °C ทำให้เกสรตัวผู้เป็นหมัน การผสมเกสรจึงไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เมล็ดลีบ

แนวทางการป้องกันและดูแลรักษาข้าว หลีกเลี่ยงการปลูกข้าวช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน หรือวางแผนการปลูกข้าวไม่ให้กระทบอากาศหนาวเย็นช่วงข้าวตั้งท้องถึงออกรวง เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิต แนะนำให้กระตุ้นการเจริญเติบโตของข้าว โดยพ่นฮอร์โมน NAA หรือไซโตไคนิน อัตรา 50 – 100 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร โดยพ่นซ้ำทุก 7 วัน หรือใช้พันธุ์ข้าวที่ทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็น เช่น ชัยนาท1 กข31 กข41 และ กข43 เป็นต้น

สำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่าใบข้าวแสดงอาการเหลือง ให้ชะลอการใส่ปุ๋ยทุกชนิด จนกว่าอุณหภูมิจะปรับตัวสูงตั้งแต่ 20 °C ขึ้นไป หากพบโรคใบจุดสีน้ำตาล พ่นด้วยเชื้อราไตรโคเดอร์มา อัตรา 1 กิโลกรัมต่อน้ำ 100 ลิตร หากอาการรุนแรง ใบข้าวเริ่มแห้งตายจากใบล่าง พ่นสารป้องกันกำจัดโรคอีดิเฟนฟอส เพื่อลดความรุนแรงของโรค อัตราการใช้ตามคำแนะนำในฉลากและใส่ปุ๋ยที่มีธาตุโพแทสเซียม
