สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานวันอาหารโลก 2025 ในโอกาสครบรอบ 80 ปี FAO

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทูตสันถวไมตรีประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ของ FAO ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานวันอาหารโลก 2025 ภายใต้หัวข้อ “Hand in Hand for Better Foods and a Better Future – จับมือร่วมสร้างอาหารที่ดี เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า” จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปี แห่งการก่อตั้งองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) โดยมี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้แทนเอฟเอโอประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ร่วมรับเสด็จ ณ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ สำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ถนนพระอาทิตย์ กรุงเทพมหานคร

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะ FAO Special Goodwill Ambassador for Asia and the Pacific ทรงมีพระราชดำรัส เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วน “ร่วมมือกันในการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน ครอบคลุม และมีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” พร้อมพระราชทานข้อคิดให้รัฐบาล ภาคเอกชน เกษตรกร และเยาวชน ร่วมแรงกันพัฒนาระบบเกษตรและอาหารที่สามารถเลี้ยงประชากรโลกได้อย่างมั่นคงและเป็นธรรม

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมในพิธีเปิดนิทรรศการ “80 ปี FAO : Hand in Hand for Better Foods” ซึ่งมีการแสดงผลงานและนวัตกรรมการเกษตรเพื่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศสมาชิกในภูมิภาค และร่วมสนทนากับผู้แทน FAO ประเทศต่าง ๆ เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือด้านการเปลี่ยนผ่านระบบเกษตรและอาหารสู่ความยั่งยืน เชื่อมโยงกับเป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติ รวมถึงการเสริมบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางความร่วมมือด้านเกษตรของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สำหรับงานวันอาหารโลกปีนี้มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ คณะทูตานุทูต ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ นักวิชาการ ภาคเอกชน เยาวชน และสื่อมวลชน โดยมีการปาฐกถาพิเศษจาก นาง พรอมิลา อาจาเรีย ริจาล ผู้ก่อตั้งและประธานองค์การพัฒนาสตรีเอเชียใต้ (SAWDF เนปาล) ในหัวข้อ “Hand in Hand for Better Foods and a Better Future” รวมทั้งมีการเสวนาจากผู้แทนจากเวียดนาม จีน และประเทศไทย นำเสนอแนวทางการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนและความร่วมมือใต้-ใต้ในภูมิภาค

นอกจากนี้ FAO ได้จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมพิเศษตลอดทั้งวัน เพื่อสื่อสารแนวคิดการร่วมมือ “จับมือกันเพื่ออาหารที่ดีขึ้นและอนาคตที่ดีกว่า” สะท้อนเจตนารมณ์ของการทำงาน 80 ปี FAO ที่ยึดมั่นในเป้าหมาย “โลกที่ปราศจากความอดอยาก (Zero Hunger)” ซึ่งประเทศไทยให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือด้านเทคนิค โครงการพัฒนาเกษตรยั่งยืน และการขับเคลื่อน National Pathway for Food and Agriculture Systems Transformation – อิ่ม..และ..ดี..2030