กว่าทศวรรษ “KUBOTA Smart Farmer Camp” ปั้นคน Gen ใหม่ในภาคเกษตรไทยด้วยเทคโนโลยี เป้าหมายไม่ใช่เกษตรกร เขาคือ “ผู้ประกอบการเกษตร”

ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่าคนรุ่นใหม่คือกำลังสำคัญในการยกระดับเกษตรไทยสู่ เกษตรมูลค่าสูงที่ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการในประเทศ แต่ยังสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ปัจจุบันการเกษตรสมัยใหม่ไม่ใช่แค่อาชีพ แต่เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาล หากใช้ความรู้ เทคโนโลยี และการจัดการที่ดี เกษตรกรสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้า และเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้” 

ท่ามกลางตวามก้าวหน้าด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีในยุคโลกดิจิทัล ดูเหมือนว่า จะเข้ามาครองในทุกวิชาอาชีพ รวมถึงภาคการเกษตรที่คนรุ่นเก่ากำลังจะอำลาท้องท่องทุ่งด้วยกาลเวลาของวัย ความหวังใหม่ฝากไว้กับทายาทที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้าสู่ภาคการเกษตรในรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช้เกษตรกรแบบเดิม แต่เป็นผู้ประกอบการเกษตร หรือ “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” ด้วยการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมามาใช้ในทุกขั้นตอนของภาคการผลิต แปรรูป บริหารจัดการและการตลาด นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เดินหน้าขับเคลื่อน โครงการ “KUBOTA Smart Farmer Camp” อย่างต่อเนื่องมากว่า 1 ทศวรรษ ปีนี้ได้จัด “KUBOTA Smart Farmer Camp 2025 ” ณ ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-ห้วยตาดข่า จ.อุดรธานี รวมแล้วสามารถสร้างเยาวชนที่มีทักษะด้านการเกษตรมาแล้วกว่า 1,000 คน

                                                              วราภรณ์ โอสถาพันธุ์

นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด  เผยว่า KUBOTA Smart Farmer Camp ดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 1 ทศวรรษ เพื่อสานฝันและเปิดพื้นที่การเรียนรู้นอกห้องเรียนให้เยาวชนทั่วประเทศได้สัมผัสโลกเกษตรยุคใหม่อย่างรอบด้าน ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ การใช้เทคโนโลยีควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และผสานเป้าหมาย SDGs ได้แก่ ความมั่นคงทางอาหาร การศึกษาของเยาวชน ความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม และการรักษาสิ่งแวดล้อมเข้าไว้ในทุกกิจกรรม แต่ละปีค่ายนี้มีรูปแบบและธีมการเรียนรู้แตกต่างกัน เพื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของภาคเกษตรกรรม ผลลัพธ์ที่ได้คือสามารถสร้างเยาวชนที่มีทักษะด้านการเกษตรมาแล้วกว่า 1,000 คน พร้อมส่งต่อองค์ความรู้กลับสู่ชุมชนอย่างไม่รู้จบ

โดยปีนี้การดำเนินแคมเปญมาในธีม Green Agri-Verse เกษตรอัจฉริยะ ปลูกให้ปัง ดังทุกเวิร์ส คัดเลือกเยาวชน 60 คนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศมารวมพลังกัน ณ ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-ห้วยตาดข่า จ.อุดรธานี เป็นเวลา 4 วันเต็ม โดยเปิดพื้นที่เรียนรู้ครบวงจรที่เชื่อม ‘ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ’ ของการเกษตรไว้ด้วยกัน เปรียบเหมือนห้องแห่งการเรียนรู้ที่ไม่มีเพดาน มีท้องฟ้าเป็นหลังคา มีกระดานดำคือนาข้าว รวมถึงแปลงดอกไม้ กิจกรรมโรงเลี้ยงโคนม และโรงแปรรูปผลผลิตที่ถูกออกแบบให้ลงมือทำจริง เด็ก ๆ ได้ลองทุกบทบาท ตั้งแต่ขับรถดำนาติด GPS การใช้โดรนพ่นสารอัจฉริยะหรือแม้แต่คนที่บ้านไม่เคยทำนา ก็ได้ปักต้นกล้าครั้งแรกในชีวิต

อีกหนึ่งความพิเศษของปีนี้ คือการดึงอินฟลูเอนเซอร์เจน Z ยุคใหม่หัวใจเกษตรร่วมเป็นเมนเทอร์ เช่น คุณโอวา ธนาวัฒน์ จันนิม ข้าวสุรินทร์เเท้ 100%  คุณบอมบ์ อภิสิทธิ์ มะพันธ์ ผู้ปลูกมันสำปะหลัง รวมทั้ง “น้องเจนทำฟาร์ม” มาร่วมเป็นวิทยากร ถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้ด้านเกษตรออแกนิคและการเกษตรฟื้นฟูให้กับน้อง ๆ ในแคมป์ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและขยายผลการเรียนรู้สู่คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่าคนรุ่นใหม่คือกำลังสำคัญในการยกระดับเกษตรไทยสู่ เกษตรมูลค่าสูงที่ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการในประเทศ แต่ยังสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ปัจจุบันการเกษตรสมัยใหม่ไม่ใช่แค่อาชีพ แต่เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาล หากใช้ความรู้ เทคโนโลยี และการจัดการที่ดี เกษตรกรสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้า และเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้” 

นางวราภรณ์ เสริมข้อมูลว่า แนวโน้มเกษตรโลกกำลังเคลื่อนไปสู่ การเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) และ การเกษตรยั่งยืน (Sustainable Agriculture) ซึ่งต้องการแรงงานรุ่นใหม่ที่มีทักษะรอบด้าน ทั้งการผลิต การจัดการข้อมูล การใช้เทคโนโลยี และการตลาดเชิงสร้างสรรค์ เพื่อเจาะตลาดเฉพาะ หรือ Niche Market ที่มีศักยภาพสูง โดยสยามคูโบต้ายังคงเชื่อว่านี่คือ “โอกาสทอง” ของประเทศไทยที่จะใช้จุดแข็งด้านภูมิประเทศและความอุดมสมบูรณ์ ควบคู่กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ มุ่งสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ที่พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับเกษตรไทยให้ก้าวสู่เวทีโลก

ภาพรวมของบรรยากาศในแคมป์เต็มไปด้วยเรื่องเล่าจากเยาวชนที่มาจากต่างถิ่น ต่างเส้นทาง แต่มีจุดร่วมเดียวกันคืออยากเปิดประตูสู่โลกเกษตรยุคใหม่ ผ่านกิจกรรมใน “KUBOTA Smart Farmer Camp 2025” และนี่คือบางส่วนของเรื่องราวที่ทำให้เห็นว่า เส้นทางสู่โลกเกษตรนั้นเริ่มได้จากหลากมุม โดยตัวแทนจากภาคเหนือ

สาวณัฐวดี ร้องหาญแก้ว

อย่าง องุ่นณัฐวดี ร้องหาญแก้ว นักศึกษาคณะการสื่อสารมวลชน สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เล่าว่า แม้จะเรียนด้านการสื่อสารการตลาด แต่ชีวิตผูกพันกับเกษตรมาตั้งแต่เด็ก ที่เลือกเส้นทางการเกษตร เพราะตระหนักว่าทรัพยากรที่มีอยู่และรากเหง้าครอบครัวคือทุนสำคัญ ตั้งแต่จำความได้ ช่วงปิดเทอมก็อยู่แต่ทุ่งนา ช่วยพ่อแม่ดำนา ดูแลต้นไม้กับคุณตา คุณตาชอบบอกเสมอว่า ที่ดินกับน้ำคือของมีค่าที่สุดถ้ารู้จักดูแล และจะเลี้ยงเราไปได้ทั้งชีวิต” คำพูดนี้มันติดอยู่ในใจมาตลอด เลยทำให้รู้สึกว่าการทำเกษตรมันไม่ใช่แค่อาชีพ แต่เป็นสิ่งที่เราอยากสืบสานต่อ

เมื่อได้เข้าร่วม “KUBOTA Smart Farmer Camp 2025” ตนได้สัมผัสเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่เป็นครั้งแรก ตั้งแต่การขับรถดำนาติด GPS ที่ช่วยวางแผนการปลูกได้แม่นยำ การทดลองพ่นสารด้วยโดรนอัจฉริยะ ไปจนถึงการเรียนรู้ระบบการผลิตที่ลดการใช้สารเคมี “ตอนขับรถดำนา GPS ครั้งแรก เหมือนได้เห็นอนาคตของเกษตรที่ง่ายและแม่นยำกว่าที่เคยคิดไว้เยอะมาก รู้สึกว่าคนรุ่นใหม่ถ้าได้ใช้เทคโนโลยีพวกนี้ จะทำให้เกษตรไม่ใช่งานหนักแบบเดิม แต่เป็นงานที่วางแผนได้ มีประสิทธิภาพ และต่อยอดธุรกิจได้หลากหลาย”องุ่นเล่าเสริม

นอกจากการเรียนรู้ในแปลง องุ่นยังได้ทดลองทำสินค้าเกษตรแปรรูปจากข้าวเป็นขนมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และลงมือไลฟ์ (Live) ขายสินค้าจริง ทำให้เห็นว่าการตลาดดิจิทัลสามารถเชื่อมผู้บริโภคเข้ากับสินค้าท้องถิ่นได้โดยตรง องุ่นเล่าว่า “หลังจบค่าย ตนตั้งใจจะต่อยอดการแปรรูปข้าวเป็นแบรนด์สินค้าเกษตรของครอบครัว และอยากนำเทคโนโลยีอย่าง GPS รวมถึงโดรนเข้ามาช่วยยกระดับกระบวนการผลิตให้ตอบโจทย์ตลาดสินค้ามูลค่าสูง อยากเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ใช้ทั้งการตลาดและเทคโนโลยี มาช่วยให้ผลผลิตของบ้านเรามีคุณภาพมากขึ้น และขายได้ในราคาที่เป็นธรรม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ”

ธนัทชัย สิเนหะวัฒนะ

อีกมุมหนึ่ง เจียธนัทชัย สิเนหะวัฒนะ นักศึกษาคณะการตลาด จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตัวแทนจากภาคกลาง ที่เติบโตในครอบครัวที่ไม่เคยจับจอบเสียม แต่กลับค้นพบ “แรงดึงดูด” และเข้าสู่วงการนี้อย่างไม่คาดคิดในช่วงฝึกงานกับบริษัทด้านการเกษตร ทำให้เขาเห็นศักยภาพของผลผลิตไทยว่ามีคุณภาพดีพอจะขึ้นห้างได้ทัดเทียมสินค้านำเข้า แต่กลับขาดการเล่าเรื่องและการสร้างมูลค่าที่เหมาะสม ประสบการณ์ครั้งนั้นจุดประกายให้เขาเริ่มศึกษาการเกษตรจริงจัง และเชื่อมั่นว่าหากผนวกความรู้ด้านการตลาดเข้ากับเกษตรสมัยใหม่ จะสร้างแบรนด์ ยกระดับตลาด และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรได้จริง

เจีย เล่าว่า แคมป์นี้ทำให้เห็นภาพชัดขึ้นจริง ๆ โดยเฉพาะตอนที่ได้ลองขับแทรกเตอร์ระบบแม่นยำด้วยตัวเอง สิ่งที่ทึ่งไม่ใช่แค่ขับง่าย แต่คือการได้เห็นปัญหาที่เคยทำให้การทำเกษตรยุ่งยาก กลับถูกแก้ได้จริง ๆ อย่างเช่น ลดค่าแรง ลดขั้นตอนการทำงาน เพราะระบบมันกำหนดระยะกับทิศทางได้แม่นยำมาก ผลผลิตก็เลยมีคุณภาพสม่ำเสมอ ใช้ทรัพยากรได้คุ้มกว่าเดิม ทำให้เปลี่ยนมุมมองเลยว่าการเกษตรไม่ใช่งานหนักกลางแดดอีกต่อไป แต่คือการทำงานด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ

เจียยังเล่าอีกว่า สำหรับตนแล้ว การเกษตรไม่ใช่อาชีพที่สืบทอดเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่เป็นเหมือน “Agri-Startup” ที่ไม่ใช่แค่ปลูกพืช แต่ปลูกโอกาสใหม่ให้เศรษฐกิจด้วย การเกษตรยุคนี้ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญ พอเอามาจับคู่กับการตลาดที่เข้าใจผู้บริโภค มันจะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ ที่ทั้งปลูกได้และขายได้จริง ผมเชื่อว่าคนรุ่นใหม่คือฟันเฟืองสำคัญ ที่จะทำให้เกษตรกรไทยไม่หยุดอยู่แค่ขายผลผลิตดิบ แต่ต่อยอดเป็นแบรนด์ ส่งออก และไปแข่งขันในเวทีโลกได้

ศรยุทธ ภูมิสายดร

ขณะที่ ฟลุ๊คศรยุทธ ภูมิสายดร นักศึกษาสาขาพืชสวน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภาคอีสาน จากอดีตเด็กติดเกมที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่ในช่วงโควิดกลับได้ลองเลี้ยงแคคตัสและไม้ประดับเพื่อฆ่าเวลา ความสนใจเล็ก ๆ นี้ค่อย ๆ เติบโตเป็นความหลงใหล จนกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาก้าวเข้าสู่รั้วคณะเกษตรอย่างเต็มตัว

เมื่อได้เรียนลึกขึ้น ฟลุ๊คยิ่งเห็นชัดว่า จิ๊กซอว์ ที่เกษตรกรรุ่นเก่ายังขาดคือ เทคโนโลยี เขาเล่าว่าที่บ้านต้องเผชิญกับละอองสารเคมีทุกครั้งที่ทำไร่ เสี่ยงต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต แต่หากมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย       ก็สามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มคุณภาพผลผลิตได้อย่างสม่ำเสมอ จุดหักเหสำคัญคือการได้เข้าร่วม “KUBOTA Smart Farmer Camp 2025” ที่เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ ฟลุ๊คได้สัมผัสเทคโนโลยีที่เคยเห็นแค่ในข่าว ทั้งระบบออโตเมชัน โดรน ไปจนถึงเครื่องมือวิเคราะห์ดิน น้ำ และอากาศ

ฟลุ๊คเล่าอย่างตื่นเต้นว่า ทุกวันนี้ตนมองว่า เกษตรไม่ใช่งานเหนื่อยกลางแดดตั้งแต่เช้าถึงเย็นอีกแล้ว แต่มันกำลังกลายเป็นสนามเทคโนโลยีที่ต้องใช้สมองเต็ม ๆ ทั้งสนุกและท้าทาย เหมือนกับเกม Simulation ที่เคยเล่น เพียงแต่ครั้งนี้ผลลัพธ์มันเกิดขึ้นจริงในไร่นา และสร้างคุณภาพชีวิตจริงให้กับผู้คนและสังคม วันนี้ตนมีเป้าหมายอยากทำให้เพื่อน ๆ ในวงการเกมได้หันมามองว่า การเพาะปลูกก็สนุก มันส์ และมีการแข่งขันไม่แพ้เกมเลย สิ่งที่ฝันสูงสุด คือการสร้างฟาร์มโชว์เคส เป็นเหมือน Training Ground สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากลองเทคโนโลยีจริง ๆ ได้เห็นผลจริง และต่อยอดไปสู่ Agri-Startup ที่แข่งขันได้ในเวทีโลก

อีกสิ่งที่ฟลุ๊คสะท้อนให้เห็นคือ เทคโนโลยีไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับเกษตรกรรุ่นใหม่เพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยเกษตรกรรุ่นเก่าลดความเสี่ยงจากสารเคมีและเพิ่มความแม่นยำในการทำเกษตร ขณะเดียวกันก็ทำให้เกษตรกรรุ่นใหม่สนุกกับการทำงานราวกับเล่นเกม เทคโนโลยีจึงกลายเป็น “ตัวกลาง” ที่เชื่อมสองเจเนอเรชันให้เดินหน้าร่วมกันบนเส้นทางSmart Farming ซึ่งเป็นทิศทางสำคัญของโลกในยุคนี้

กิตติพงศ์ ชัยชะนะ

เช่นเดียวกับ ปิงกิตติพงศ์ ชัยชะนะ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา ภาคใต้ ผู้เติบโตมากับภาพคุ้นตาของสวนยางพาราและพืชเศรษฐกิจในครอบครัวที่ยังใช้วิธีการเกษตรแบบดั้งเดิม พึ่งพาแรงงานคนและประสบการณ์มากกว่าข้อมูลหรือเทคโนโลยี  ซึ่งปิง เผยถึงมุมมองของตนว่า ยังเคารพภูมิปัญญารุ่นคุณพ่อคุณแม่ แต่ก็อยากให้ที่บ้านกล้าลองใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ  จึงตั้งเป้าในการเรียนต่อด้านเกษตร เพื่อจะได้กลับไปต่อยอดการทำหมอนยางพาราจากวัตถุดิบที่บ้านเกิดของตนเอง

“จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นตั้งแต่คูโบต้าเข้ามาแนะนำโครงการที่คณะ ตนได้ตัดสินใจสมัครทันที แม้จะแอบกังวลว่า ‘จะเหนื่อยเกินไปไหม’ แต่สิ่งที่เจอกลับตรงกันข้าม ภายในค่าย 4 วัน กลับได้สัมผัสโลกเกษตรสมัยใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีจริง ๆ ได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ผ่าน 6 ฐานกิจกรรม ตั้งแต่การใช้เครื่องจักรกลและโดรน ปลูกพืชหมุนเวียน แปรรูปสินค้าเกษตรและไลฟ์สดขายบน TikTok การปรับปรุงดิน จัดการพื้นที่เกษตร ไปจนถึงการออกแบบแผนเกษตรในอนาคตของตัวเอง นอกจากนั้น สิ่งที่มีค่ามากอีกอย่างคือการได้เจอเพื่อน ๆ ในค่ายมีไอเดียเกษตรสร้างสรรค์เยอะมาก มีมุมมองใหม่ ๆ ที่ไม่เคยคิดมาก่อน จึงทำให้มั่นใจว่าการเกษตรที่เรารู้จักจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” ปิง กิตติพงศ์ เล่า

KUBOTA Smart Farmer Camp 2025 ไม่ได้เป็นเพียงค่ายเรียนรู้นอกห้องเรียน แต่คือเวทีบ่มเพาะพลังคนรุ่นใหม่ให้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของประเทศในการขับเคลื่อนการเกษตรไทยสู่อนาคต เส้นทางที่เริ่มต้นจากค่ายเล็ก ๆ แห่งนี้ จะเป็นจุดประกายสำคัญในการสร้าง “Smart Farmer” ที่มีความรู้ มีวิสัยทัศน์ และต่อยอดสู่การสร้าง Agri Influencer รุ่นใหม่ ที่พร้อมจะถ่ายทอดเรื่องราว สร้างแรงบันดาลใจ และผลักดันภาพลักษณ์ใหม่ของภาคเกษตรไทยให้สังคมเห็นว่า อาชีพเกษตรกรไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่คืออนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน