ไทย-เนเธอร์แลนด์ บรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกันในการขับเคลื่อนความร่วมมือ ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการตามแผนดำเนินงานระยะ 5 ปี ค.ศ. 2026 – 2030 และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
วันที่ 27 มิถุนายน 2568 นายชุมลาภ เตชะเสน ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ปฏิบัติหน้าที่ประธานร่วมกับ Mr. Jaap Slootmaker รัฐมนตรีช่วยประจำกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารจัดการน้ำ แห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ในการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานร่วม ว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไทย–เนเธอร์แลนด์ ครั้งที่ 1 (1st Joint Steering Committee Thailand – Netherlands)
โดยการประชุมครั้งนี้ คณะ JSC เนเธอร์แลนด์ ประกอบด้วย สถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย กระทรวงโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารจัดการน้ำแห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ Water as Leverage และ The Partners for International Business และผู้แทนฝ่ายไทย ประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมอุตุนิยมวิทยา กรุงเทพมหานคร และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) เข้าร่วมการประชุม โดยมี ดร.วินัย วังพิมูล ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สทนช. ทำหน้าที่เลขานุการฯ ณ อาคารจุฑามาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
นายชุมลาภ เปิดเผยว่า การประชุมระหว่างไทยและเนเธอร์แลนด์ในวันนี้ บรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกันในการขับเคลื่อนความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นการลงนามร่วมกันระหว่าง สทนช. และกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารจัดการน้ำแห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในหลากหลายมิติ อาทิ การจัดการอุทกภัยและการระบายน้ำในเขตเมือง การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการบริหารจัดการน้ำ การพัฒนาเมืองที่มีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเสริมสร้างธรรมาภิบาลน้ำ และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
โดยคณะกรรมการได้เห็นชอบกรอบการดำเนินงานตามแผนดำเนินงานระยะ 5 ปี ค.ศ. 2026 – 2030 (5-Year Action Plan) ซึ่งกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกันในด้านต่าง ๆ อาทิ การจัดทำโครงการร่วม การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สำหรับการดำเนินงาน และกิจกรรมรายปีของคณะกรรมการและคณะทำงาน ซึ่งมีแนวทางดำเนินงานครอบคลุมด้านการจัดการและพัฒนาเพื่อป้องกันการรุกล้ำของน้ำทะเล จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การส่งเสริมแนวทางการแก้ไขปัญหาที่อาศัยธรรมชาติเป็นฐาน (Nature-based Solutions: NbS) การศึกษาระบบภาษีน้ำและกองทุนน้ำ(Water Fund) และการจัดการน้ำท่วมและระบายน้ำ
รวมถึงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ฯลฯ ทั้งสองฝ่ายยังได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือในระยะยาวที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะความเชี่ยวชาญของเนเธอร์แลนด์ ที่จะสามารถถ่ายทอดประสบการณ์และเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ให้กับไทย เพื่อส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาสู่การพัฒนาการบริหารจัดการน้ำของไทยอย่างยั่งยืน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อไป