2 แนวทางแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ ทำไมกระทรวงเกษตรฯไม่ทำ?

โดย…ดร.อุทัย สอนหลักทรัพย์

วันนี้ราคาน้ำยางลดลงอีก กก.ละ 1 บาท เหลือ กก.ละ 53 บาทครับ แสดงว่ามาตรการที่ผ่านมาอาจไม่ช่วยให้ราคายางพาราดีขึ้น  อยากให้ลองดูขอเสนอแนะจากทุกคน และลองทำดู ถ้าดีก็เดินหน้า ไม่ดีก็หามาตรการใหม่ แต่อย่าใข้มาตรการช่วยนายทุน สงสารชาวสวนบางที่อดอยาก ปากแห้ง เจ้าของเงิน Cess น่ะครับ

สำหรับข้อเสนอแนะนั้น ที่ประชุมจากการประชุมคณะกรรมการ กยท.เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 สรุปแนวทางแก้ปัญหา 2 แนวทางคือปรัปรุงยางพาราพันรธุ์ RRIM 600 พูดง่ายให้ส่งเสริมการปลูกยางพันธุ์อื่นที่ให้ผลผลิตมากกว่า อาท RRIT 9304 และอีกแนวทางหนึ่งสนับสนุนเกษตรกรที่ปบูกยางพาราพันธุ์ RRIM 600 ให้เข้าถึงฮอร์โมนเร่งน้ำยางอีทีฟอน พลัส ที่มาเลเซียเคยใช้อยู่ 

ทว่า…ทำไมกรมวิชาการเกษตร จึงมีเงื่อนไขให้ขอใบอนุญาตินำเข้าวัตถุอันตรายยากกว่าที่เคยให้เมื่อปี พ.ศ. 2545 ครับ ช่วงนั้นขอ ง่ายมากและได้เร็ว ตอนนี้ขอยากมากและใข้เวลานานแรมปี ก็ยังไม่ได้รับอนุญาติให้นำเข้า ขอให้ทบทวนใหม่ก่อนที่ชาวสวนยยางจะตายหมู่ น่ะครับ.

อย่างไรก็ตาม มองว่าการแก้ไขปัญหาโดยการเพิ่มผลิตทั้งสองแนวทางคือระระยาวโค่นยาง RRIM600 ซึ่งให้น้ายางใม่เกิน 220 กก/ใร่/ปี ให้เปลียนเป็นยาง RRIT3904 ซึ่งให้น้ำยางอย่างน้อย 400 กก./ไร่/ปี  ซึ่งปัจุบันประเทศไทย ปลูกยางพาราพันธุ์ RRIM 600 ปลูกอยู่จำนวนใม่น้อยกว่า70%ในประเทศ

ดังนั้นจึงควรใช้แบบอย่างจากสภาบันวิจัย RRIM ประเทศมาเลเซียคิอเขาใช้มา 40 กว่าปี แล้วจนกระทั่งรัฐบาลมาเลเซียมีนโยบายห้ามปลูกพันธ์ RRIM600 มาก่วา30 ปีแล้ว  ส่วนยางพาราพันธุ์ RRIM 600 เขาใช้ฮอรโมนอีทีฟอน พลัส เร่งน้ำยางจาก RRIM600 ออกมาเท่าตัวหริอประมาณ 400 กก/ไร่/ปี แต่เมื่อ 40 ปีก่อน ทางกรมวิชาการเกษตรของเราบอกว่าฮอรโมนตัวนี้ถือเป็นวัตถุอันตราย 

ปัญจุบันเกิดวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ เกษตรกรที่ประเทศมาเลเซีย ปลูกยางพาราปลูกยางพาราทีให้น้ำยางมากกว่า RRIM 600 แต่ของไทยยังมีพันธุ์ RRIM 600 ถึง 70% ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ราคาตกต่ำและผลผลิตน้อยเราจึงสู้เขาใม่ใด้ ถ้าใม่ใช้ฮอร์โมนเร่งน้ำยางมาช่วย

ตอนนี้ผลผลิตยางพาราทั่วโลกมีจำนวนมากราคาจึงถูก แต่อื่นเขาปลูกยางพาราพันธุ์ดีให้ผลผลิตสูงจึงกระทบน้อยก่วาเรา แต่บ้านเรารัฐบาลกลับนิ่งเฉยในการปกเปัญหา ทั้งๆที่สมาคมสมาพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทยใด้เสนอให้การยางแห่งประเทศไทยเป็นผู้นำเข้าฮอร์โมนเร่งน้ำยาง โดยใช้เงิน cess เพื่อให้เกษตรกรลองใช้ฟรี 2 เดือน เมื่อได้กำไร และเห็นผลเกษตรกรก็จะซื้อเอง โดยให้หน่วยธุระกิจ BU ของการยางฯเป็นผู้สั่งเข้ามา

การใช้เงิน cess ซึ่งเป็นเงินของเหษตรกรเอง ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกทาง แต่การเสนอของสมาคมสมาพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทยถึง รมว.เกษตรฯแล้ว แต่กระทรวงเกษตรฯยังไม่มีมาตรการอะไรออกมา ทำให้ราคายางตกต่ำลงทุกวันอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ครับ!!