เปิดตัว-เก็บเกี่ยว “ทุเรียนกลางกรุง@เกษตรบางเขน” 5 สายพันธุ์คึกคัก ปีนี้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 2 เท่า

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ฤกษ์งามยามดี เปิดตัวทุเรียนและเก็บเกี่ยวชุดที่ 2 “ทุเรียนกลางกรุง@เกษตรบางเขน” ณ แปลงทดลอง 2 เรือนองุ่นปวิณ ปุณศรี ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คึกคักท่ามกลางสื่อมวลชนให้สนใจเป็นอย่างมาก เผยปีนี้ได้ผลผลิตเพิ่มเป็น 2 เท่า จากปี 2566 หลังจากที่ปีแล้วไรมีไรแดงเข้าทำลายจนไม่สามารถติดผลได้
เมื่อเวลาเวลา 15.00 น. วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ฤกษ์งามยามดี เปิดตัวทุเรียนและเก็บเกี่ยวชุดที่ 2 “ทุเรียนกลางกรุง@เกษตรบางเขน” ณ แปลงทดลอง 2 เรือนองุ่นปวิณ ปุณศรี ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ได้ผลผลิตเพิ่มเป็น 2 เท่า จากปี 2566
งานนี้ ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นประธานเปิดงาน และ ตัดทุเรียนพันธุ์กบสุวรรณ ชุดแรกของปี 2568 ซึ่งมี ทุเรียนออกดอก ติดผล ทั้งหมด 5 พันธุ์ จำนวนประมาณ 60 ผล ได้แก่ 1. พันธุ์มูซานคิง ไว้ผลจำนวน 15 ผล ปี 2566 (5 ผล),2. พันธุ์หนามดำ ไว้ผลจำนวน 1 ผล (10 ผล),3. พันธุ์กบสุวรรณ ไว้ผลจำนวน 36 ผล (13 ผล) 4. พันธุ์จันทบุรี 9 ไว้ผลจำนวน 1 ผล (5 ผล),และ5. พันธุ์จันทบุรี 1 ไว้ผลจำนวน 7 ผล
ย้อนทุเรียนกลางกรุง@เกษตรบางเขน ณ แปลงทดลอง 2 เรือนองุ่นปวิณ ปุณศรี ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งหลังจากเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ท่านอธิการบดีจงรัก วัชรินทร์รัตน์ ได้ให้เกียรติภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร ตัดทุเรียนชุดแรกของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในรอบ 80 ปีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ 66 ปีภาควิชาพืชสวน ในวันดังกล่าวภาควิชาฯ ได้ให้นิสิตเก่าและผู้สนใจจองทุเรียนผลละ 5,000 บาท

นอกจากได้รับประทานทุเรียนคุณภาพสูงแล้ว ยังได้ลดหย่อนภาษี 2 เท่าด้วย ภาควิชาฯ ได้มอบเงินที่ได้จากการอุดหนุนทุเรียนเป็นเงินจำนวน 66,080 บาท   (66 คือ ครบรอบ 66 ปีภาควิชาพืชสวน และ 80 คือ ครบรอบ 80 ปีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ให้กับมหาวิทยาลัยฯ  เพื่อสมทบทุนการก่อสร้างโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ในปี พ.ศ. 2566 พันธุ์ทุเรียนที่ออกดอกติดผล ณ แปลงทดลอง 2 เรือนองุ่นปวิณ ปุณศรี ประกอบด้วยพันธุ์กบสุวรรณ มูซานคิง หนามดำ และจันทบุรี 9  ส่วนพันธุ์หมอนทอง สาลิกา     ทองลินจง หลงลับแล จันทบุรี 1 และจันทบุรี 4 ไม่ออกดออกติดผล

จากนั้นประมาณเดือนมิถุนายน 2566 ภาควิชาฯ ได้เพาะเมล็ดลูกผสมหนามดำ มูซานคิง และกบสุวรรณ เมื่อต้นงอกและเติบโต ในปี พ.ศ. 2567 จึงนำมาลูกผสมดังกล่าวมาเสียบยอดแบบเสียบข้างบนต้นตอพันธุ์พื้นบ้าน ปัจจุบันต้นพันธุ์ลูกผสมมีการเจริญเติบโตดีมาก คาดว่าน่าจะให้ผลผลิตในอีก 3-5 ปีข้างหน้า

ในปี พ.ศ. 2567 ทุเรียนต้นเดิมที่ออกดอกติดผลในปี พ.ศ. 2566 ออกดอกทั้ง 4 พันธุ์ และพันธุ์หมอนทอง แต่ทุกพันธุ์ไม่ติดผล เนื่องจากช่วงที่เริ่มออกดอกประมาณเดือนธันวาคม 2566  มีไรแดงเข้าทำลายที่ใบแก่ (เป็นชุดใบที่เตรียมพร้อมสำหรับใช้เพื่อการออกดอก) และบางส่วนเข้าทำลายดอก เมื่อดอกบาน จึงไม่สามารถติดผลได้ เพราะต้นทุเรียนมีอาหารสะสมน้อย ดอกจึงร่วงทั้งหมด หลังจากนั้นยังมีเชื้อรา Fusarium เข้าทำลายต้นทุเรียน มีลักษณะอาการยอดแห้งจากปลายกิ่งลงมา

ทั้งนี้เริ่มสังเกตได้จากไม่มีการแตกยอดใหม่ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567 จากนั้นประมาณเดือนมิถุนายน 2567 พบอาการรุนแรงมาก โดยใบร่วงเกือบหมดทั้งต้น โดยเฉพาะพันธุ์หมอนทอง จันทบุรี 9 และสาลิกา ส่วนพันธุ์ที่ใบร่วงเหลือใบน้อยมากประมาณ 20% ได้แก่ จันทบุรี 4 หนามดำ มูซานคิง ในขณะที่พันธุ์กบสุวรรณเหลือใบประมาณ 40-50%

แนวทางแก้ไข ใช้สารเคมีกำจัดเชื้อรา Fusarium ผสมกับน้ำส้มควันไม้ ฉีดพ่น 3 ครั้งทุกสัปดาห์ติดกัน จากนั้นพบว่าทุเรียนเริ่มแตกใบอ่อน/ผลิใบอ่อนออกมา

สำหรับการผลิตทุเรียนในปี พ.ศ. 2567 และเก็บผลผลิตในปี พ.ศ. 2568 นี้การให้น้ำ ให้ปุ๋ย แตกต่างไปจากปี พ.ศ. 2566 เนื่องจากสภาพอากาศที่แตกต่างออกไป เช่น มีช่วงแล้งสลับฝนตกตั้งแต่ระยะช่อดอก จำเป็นต้องให้ปุ๋ยที่มี K เป็นระยะทั้งการให้ทางดินและทางใบ

ดังนั้นเทคนิคสำคัญในการปลูกทุเรียนให้ได้ผลผลิตในปี พ.ศ. 2568 มีดังนี้ 1.ให้ต้นมีอาหารสะสมเพียงพอ โดยเพิ่มการให้อาหารทางใบบ่อยขึ้น (น้ำตาลซอร์บิทอล และกรดอะมิโม) รวมทั้งธาตุอาหารเสริม ได้แก่ เหล็ก สังกะสี ทองแดง ให้ทุก 10 วัน ติดต่อกัน 6 ครั้ง, 2.ประมาณเดือนธันวาคม 2567 ต้นถูกบังแสงจากเงาของต้นนนทรี ทุเรียนสังเคราะห์ด้วยแสงได้น้อย ต้องมีการให้อาหารเสริมทางใบ ได้แก่ น้ำตาลซอร์บิทอล และกรดอะมิโน,  3.ต้นทุเรียนต้องเผชิญกับความแล้งสลับฝนตกแล้วได้รับอุณหภูมิต่ำเป็นเวลานาน ต้องมีการจัดการน้ำอย่างเหมาะสม

4.ช่วงจังหวะดอกบานประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ฝนตกหนัก ซึ่งเป็นปัญหาในการผสมเกสร ต้องใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตพืชกลุ่ม ออกซิน (NAA) 5% ฉีดพ่นเพื่อช่วยการติดผล,และ 5.ในปี 2566 ใช้เทคนิคการผสมเกสรด้วยวิธีการปาดดอกทุเรียน ทำให้ควบคุมปริมาณดอกที่เหมาะสมในแต่ละกิ่ง ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่มีรูปร่างสมบูรณ์ไม่บิดเบี้ยว สำหรับปี พ.ศ. 2568 นี้ ใช้เทคนิคการผสมเกสรด้วยวิธีปัดดอก ซึ่งจะพบจำนวนผลที่มีลักษณะบิดเบี้ยวเกิดขึ้นมากกว่า และในปี พ.ศ.2568 ทุเรียนออกดอก ติดผล ทั้งหมด 5 พันธุ์ ดังกล่าว