ธ.ก.ส. ประกาศเลื่อนเวลาชำระหนี้ลูกค้าที่ประสบอุทกภัยภาคเหนือออกไปสูงสุดไม่เกิน 1 ปีเพื่อลดความกังวลในเรื่องภาระหนี้ พร้อมมอบหมายสาขาในพื้นที่จัดถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนและจัดสินเชื่อเสริมสภาพคล่องเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินจำเป็นป้องกันปัญหาหนี้นอกระบบ
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุดจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ ได้สร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร ที่อยู่อาศัยรวมถึงทรัพย์สินของประชาชนในวงกว้าง ซึ่ง ธ.ก.ส. มีความห่วงใยผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้พนักงาน ธ.ก.ส. ในพื้นที่ออกเยี่ยมลูกค้าพร้อมจัดหาถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนทั่วไปในพื้นที่ดังกล่าว
ฉัตรชัย ศิริไล
ในส่วนของเกษตรกรลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนและผลผลิตได้รับความเสียหายจนส่งผลกระทบต่อรายได้แต่ยังคงมีภาระหนี้สินอยู่กับ ธ.ก.ส. เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลใจ โดย ธ.ก.ส.พร้อมเลื่อนเวลาการชำระหนี้ออกไปสูงสุดไม่เกิน 1 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ยปรับ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนซึ่งลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่สาขาในสังกัดในพื้นที่ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2567
นอกจากนี้สำหรับพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตประสบภัยโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ยังมีมาตรการฟื้นฟูและเสริมสภาพคล่องเกษตรกรผ่าน 1) โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 2567/68เพื่อเสริมสภาพคล่องเกษตรกรในด้านค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น ค่าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น อัตราดอกเบี้ย 0% 6 เดือนแรก เดือนที่ 7 คิดอัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.975) วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท, และ 2) โครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นค่าลงทุนในการซ่อมแซมบ้านเรือนและทรัพย์สินค่าซ่อมเครื่องมือและอุปกรณ์ การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการทำการเกษตรรอบใหม่วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท
ทั้งนี้ ธนาคารพร้อมเข้าไปดูแลและช่วยเหลืออย่างเต็มที่โดยหลังน้ำลดจะออกสำรวจความเสียหายของลูกค้าเพื่อรวบรวมข้อมูลในการวางแนวทางการช่วยเหลืออย่างตรงจุดต่อไป สำหรับเกษตรกรผู้ประสบภัยดังกล่าวสามารถแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง