กระทรวงเกษตรฯ สรุปสถานการณ์การค้าสินค้าไทยมีการค้ากับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกช่วง 3 ปี มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 17,086,503 ล้านบาท เป็นมูลค่าส่งออกเฉลี่ยปีละ 8,562,672 ล้านบาท นำเข้าเฉลี่ยปีละ 8,523,831 ล้านบาท เฉพาะสินค้าเกษตรส่งออกเฉลี่ยปีละ 1,426,354 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 18.70 ต่อปี เผย 6 เดือนแรกปี 66 ไทยมีมูลค่าการค้ากับโลก 1.231 ล้านล้านบาท โดยเป็นมูลค่าส่งออก 8.53 แสนล้านบาท
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาว่า (ปี 2563 – 2565) พบว่า ไทยมีการค้ากับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งเป็นมูลค่าสินค้าเกษตรที่น่าพึงพอใจ มีมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด ทำให้มีส่วนช่วยในด้านเศรษฐกิจสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยมีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 17,086,503 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าส่งออกเฉลี่ยปีละ 8,562,672 ล้านบาท และมูลค่านำเข้าเฉลี่ยปีละ 8,523,831 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรประมาณ 2,025,065 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 11.85 ของมูลค่าการค้ารวมทุกสินค้า ทั้งนี้ ภาพรวมการค้าสินค้าเกษตรไทยกับทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 (มกราคม – มิถุนายน 2566) คิดเป็นมูลค่า 1,231,846 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่มีมูลค่า 1,196,706 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.94)
ด้ายนายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการส่งออกสินค้าเกษตร ปี 2563 – 2565 พบว่า มีการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 1,426,354 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 18.70 ต่อปี การส่งออกในปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) เทียบกับปี 2565 ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่า มีการส่งออกลดลงจาก 859,089 ล้านบาท เป็น 853,531 ล้านบาท หรือลดลง 5,558 ล้านบาท (ลดลงร้อยละ 0.65) ในส่วนของการนำเข้าสินค้าเกษตร ปี 2563 – 2565 มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละ 598,711 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 16.29 ต่อปี สำหรับการนำเข้าในปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) เทียบกับปี 2565 ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่า มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นจาก 337,617 ล้านบาท เป็น 378,315 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 40,698 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.05)
สำหรับตลาดส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญของไทย ในช่วงปี 2563-2565 ได้แก่ จีน (341,442 ล้านบาท) ญี่ปุ่น (152,071 ล้านบาท) สหรัฐอเมริกา (151,360 ล้านบาท) และสหภาพยุโรป (84,163 ล้านบาท) โดยมีมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ยังมีมูลค่าต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สำหรับสินค้าเกษตรส่งออกและนำเข้า ที่สำคัญของไทย มีดังนี้
สินค้าเกษตรส่งออก อาทิ ข้าว ช่วงปี 2563 – 2565 มีมูลค่าส่งออกเฉลี่ย 108,048 ล้านบาท (อัตราการเติบโตร้อยละ 9.86) โดยในครึ่งปีแรกของปี 2566 ไทยส่งออกข้าวได้ 67,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 23.77 เนื่องจากความต้องการข้าวของโลกสูงขึ้น ในขณะที่ไทยมีความพร้อมด้านผลผลิตมากกว่าคู่แข่ง จึงเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น
ทุเรียน มีมูลค่าส่งออกเฉลี่ย 94,988 ล้านบาท (อัตราการเติบโตร้อยละ 29.55) โดยในครึ่งปีแรกของปี 2566 ไทยส่งออกทุเรียนได้ 102,184 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 30.77 เนื่องจากตลาดจีนมีความต้องการทุเรียนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทำให้การส่งออกไม่มีปัญหาด้านโลจิสติกส์ ทำให้การส่งออกทุเรียนไทยเพิ่มขึ้น
ไก่ปรุงแต่ง มีมูลค่าส่งออกเฉลี่ย 83,731 ล้านบาท (อัตราการเติบโตร้อยละ 16.14) ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาดส่งออกหลัก โดยเฉพาะญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป โดยในครึ่งปีแรกของปี 2566 ไทยส่งออกไก่ปรุงแต่งได้ 45,199 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 3.77 เนื่องจากประเทศผู้นำเข้าที่สำคัญ โดยเฉพาะญี่ปุ่นนำเข้าลดลงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของเงินเยน
และยางธรรมชาติ มีมูลค่าส่งออกเฉลี่ย 78,435 ล้านบาท (อัตราการเติบโตร้อยละ 42.64) ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจของคู่ค้าสำคัญมีมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับยางพารา อาทิ อุตสาหกรรมรถยนต์ อีกทั้งในปี 2565 ระบบโซ่อุปทานสามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมได้ปกติ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2566 ไทยส่งออกยางธรรมชาติได้ 34,712 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 30.86 เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ซึ่งส่งผลต่อความต้องการยางพาราในอุตสาหกรรมลดลง
สินค้าเกษตรนำเข้า อาทิ ถั่วเหลือง ช่วงปี 2563-2565 มีมูลค่านำเข้าเฉลี่ย 64,533 ล้านบาท (อัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 5.72 ) อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีแรกของปี 2566 ไทยนำเข้าถั่วเหลือง 43,066 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 42.84 เนื่องจากราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นจากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นและความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น
มันสำปะหลัง มีมูลค่านำเข้าเฉลี่ย 15,445 ล้านบาท (อัตราการเติบโตร้อยละ 22.85) เนื่องจากผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ รวมถึงการแปรรูปเพื่อส่งออกที่มีมากขึ้น แต่ในครึ่งปีแรกของปี 2566 ไทยนำเข้ามันสำปะหลัง 14,510 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 3.81
ปลาหมึกกระดองและปลาหมึกกล้วยแช่แข็ง มีมูลค่านำเข้าเฉลี่ย 13,519 ล้านบาท (อัตราการเติบโตร้อยละ 16.03) และในครึ่งปีแรกของปี 2566 ไทยนำเข้าปลาหมึกกระดองและปลาหมึกกล้วยแช่แข็ง 8,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 10.05 เนื่องจากปริมาณหมึกที่จับได้จากการทำประมงพาณิชย์และขึ้นท่าที่ไทยลดลง จากกรณีราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 ทำให้ต้นทุนในการทำประมงสูงขึ้น ชาวประมงบางส่วนจึงลดรอบการออกเรือไปทำประมง ในขณะที่ความต้องการบริโภคหมึกยังคงทรงตัว ไทยจึงต้องนำเข้าหมึกจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น
สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีมูลค่านำเข้าเฉลี่ย 12,314 ล้านบาท (อัตราการเติบโตร้อยละ 31.33) เนื่องจากผลผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศตามการขยายตัวของภาคการเลี้ยงปศุสัตว์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในครึ่งปีแรกของปี 2566 ไทยนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 11,346 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 9.38