ดร.ไพรัตน์ ศรีชนะ
ซีพีเอฟ เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมอาหารสั ตว์รักษ์โลก ยึดหลักการโภชนาการแม่นยำ สรรหาสารอาหารที่ตรงกับช่วงวั ยการเติบโตของสัตว์ทั้งด้านปริ มาณและคุณภาพ และวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ ต้องไม่มาจากแหล่งที่มีการตั ดไม้ทำลายป่า จับมือพันธมิตรที่ได้รั บการยอมรับในระดับโลก เพื่อพัฒนาวิธีการประเมินด้ านการผลิตปศุสัตว์และผลกระทบต่ อสภาพสิ่งแวดล้อม หนุนสุขภาพที่ดีของคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางสุขภาพหนึ่งเดียว (One Health) ตอบโจทย์สร้างความมั่ นคงทางอาหาร และดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ดร.ไพรัตน์ ศรีชนะ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักวิชาการอาหารสัตว์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ มุ่งมั่นวิจัยและสร้างสรรค์นวั ตกรรมอาหารสัตว์ โดยให้ความสำคัญกับหลั กโภชนาการแม่นยำ คือ การสรรหาและคิดค้นวัตถุดิบทั้ งในเชิงปริมาณและคุณภาพ เพื่อนำไปผลิตและพัฒนาสู ตรอาหารสัตว์ที่ตรงกับความต้ องการอาหารของสัตว์ในแต่ละช่ วงวัย ช่วยให้การย่อยของสัตว์ สามารถใช้ประโยชน์จากสารอาหารต่ างๆได้ดี ลดการปลดปล่อยสารอาหารส่วนเกิ นสู่สิ่งแวดล้อม อาทิ ไนโตรเจน นอกจากนี้ มีการใช้นวัตกรรมการเลี้ยงไก่ และสุกรด้วยจุลินทรีย์ดี “โปรไบโอติก” โดยให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่ จะลดการใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ ยงสัตว์ เพื่อให้สัตว์มีสุขภาพแข็ งแรงและเติบโตอย่างมีประสิทธิ ภาพ ตามหลักสุขภาพหนึ่งเดียว (One Health) คือ สุขภาพคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์สุขภาพของผู้บริโภค ภายใต้แนวคิดการผลิตอาหารปลอดภั ย
ซีพีเอฟ มีระบบและเครื่องมือที่มี ความพร้อมด้านต่างๆในการผลิ ตอาหารสัตว์ รวมถึงการนำนวัตกรรมทางด้านวิ ศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ( Biotechnology)เข้ามาช่วยพั ฒนาสูตรอาหารสัตว์ เพื่อให้การขับของเสียจากฟาร์ มปศุสัตว์น้อยที่สุด รวมไปการจัดหาวัตถุดิบในการผลิ ตอาหารสัตว์ เช่น ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน กากถั่วเหลือง มันสำปะหลัง ที่ต้องไม่มาจากแหล่งตัดไม้ ทำลายป่า ซึ่งเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่ างยั่งยืน
“เราคิดว่าสัตว์ที่มีสุขภาพที่ ดี ก็จะได้เนื้อสัตว์หรือแหล่ งโปรตีนที่ดี เพื่อส่งต่อไปยังผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคสุขภาพดี นอกจากตัวสัตว์ ผู้บริโภค เราใส่ใจสิ่งแวดล้อม อยากให้สิ่งแวดล้อมสุขภาพดีด้วย ” ดร.ไพรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ จากการที่บริษัทฯ ได้ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาระดั บโลกจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้แก่ บริษัทรอยัล ดีเอสเอ็ม (Royal DSM NV) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านนวั ตกรรมอาหารและปศุสัตว์ และ บริษัท Blonk Consultants องค์กรที่ให้คำปรึกษาด้านการวิ เคราะห์ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม จะช่วยเสริมศักยภาพของซีพีเอฟ ในการพัฒนาอาหารสัตว์รักษ์โลก ด้วยการนำนวัตกรรมโซลูชัน “SustellTM” มาใช้วัดผลงานด้านความยั่งยื นของผลิตภัณฑ์ ด้วยการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และหาแนวทางลดผลกระทบต่อสิ่ งแวดล้อมจากการผลิตอาหารในธุรกิ จสัตว์บก อาทิ ไก่เนื้อ ไก่ไข่ สุกร และวัวนม ทำให้สามารถวัดข้อมูลตั้งแต่วั ตถุดิบ สูตรอาหาร และฟาร์ม เป็นโอกาสที่ดีที่ซีพีเอฟได้ แลกเปลี่ยนและแชร์ประสบการณ์ จากผู้เชี่ยวชาญที่ได้รั บการยอมรับในระดับสากล
เนื่องจาก Blonk Consultants เป็นผู้ให้คำปรึกษากับหลายๆ องค์กร เช่น องค์การอาหารและเกษตรแห่ งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations : FAO) ในการพัฒนาวิธีการประเมินด้ านการผลิตปศุสัตว์และการประเมิ นผลกระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อม (Livestock Environmental Assessment and Performance, LEAP) เกี่ยวกับการผลิตอาหารสัตว์
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักวิชาการอาหารสัตว์ ซีพีเอฟ กล่าวอีกยว่า ซีพีเอฟ พัฒนาอาหารสัตว์รักษ์โลกมาอย่ างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นต้นทางที่จะนำไปสู่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์สีเขียว (Green Product) อาทิ อาหารสุกรที่สามารถลดปริ มาณไนโตรเจนส่วนเกินที่สุกรขั บทิ้งออกมาในรูปแบบของสิ่งขับถ่ ายถึงร้อยละ 20-30 ซึ่งประยุกต์ใช้จากประเทศไทย ขยายไปทุกประเทศทั่วโลกที่ซีพี เอฟมีฟาร์มสุกรอยู่ จากนั้นขยายผลไปยังสุกรพ่อแม่พั นธุ์ สุกรรุ่นพันธุ์ การพัฒนาสูตรอาหารไก่ไข่รักษ์สิ่ งแวดล้อม โดยลดการใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ เช่น กากถั่วเหลือง เพื่อช่วยลดกลิ่นที่เกิดจากมู ลสัตว์ ทำให้ปริมาณไนโตรเจนส่วนเกิ นลดลงร้อยละ 12-13 จากมูลไก่ไข่ และในปี 2566 นี้ มีแผนที่จะพัฒนาสูตรอาหารรักษ์ โลกสำหรับธุรกิจเป็ดเนื้ อครบวงจร โดยคาดการณ์ว่าปี 2566 อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ของประเทศไทยจะเติบโตใกล้เคี ยงกับปี 2564 แม้ว่าจะมีปัจจัยความท้ าทายจากต้นทุนวัตถุดิบในการผลิ ตอาหารสัตว์สูงขึ้น