“ไทยลีฟฯ” วาดฝัน ดันนครนายก สู่ “Wellness Hub”ตอบโจทย์นโยบายรัฐ-จุดกระแสเทรนด์การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ

  •  
  •  
  •  
  •  

” ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี” ฉายภาพอนาคตตลาดกัญชงไทย เติบโตก้าวกระโดดในอีก 3 ปีข้างหน้า พร้อมอัปเดตความคืบหน้าทางธุรกิจรับปี 2566 เตรียมออกผลิตภัณฑ์ CBD จากกัญชง ประเดมกลุ่มแรกอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ สอดรับกระแสเทรนด์สุขภาพ และสอดคล้องนโยบายภาครัฐและการขับเคลื่อนแผนพัฒนาการท่องเที่ยว เผยมีแผนพัฒนาระยะยาวในการพัฒนาเมืองนครนายกซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานของไทยลีฟ สู่การเป็น “Wellness Hub” ส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางการใช้กัญชงเพื่อสุขภาพ กระจายรายได้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพคืนสู่ชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

นายยิ่งยศ จารุบุษปายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัดเผยว่า ตลาดกัญชงไทยในปี 2565 ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ราว 10 เปอร์เซ็น แม้น้อยกว่าที่คาดการณ์ เนื่องจากปัจจัยจากการประกาศ ร่าง พ.ร.บ. เสรีกัญชง-กัญชาที่ยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจน และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของผู้บริโภคที่มองว่ากัญชงและกัญชาเป็นสิ่งเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ไทยลีฟยังคงเชื่อมั่นว่าตลาดกัญชงไทยในอีก 3 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2566-2568) จะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สืบเนื่องจากกระแสเทรนด์สุขภาพ ที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาวะทั้งกายและใจ (Health and Well-Being) และเน้นการเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มอาหารเสริม ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัด CBD จากกัญชงที่มีคุณภาพ น่าจะได้รับความนิยมในสายเฮลธ์แคร์ด้วยเช่นกัน

สำหรับไทยลีฟมีแผนธุรกิจเตรียมวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัด CBD จากกัญชง เจาะกลุ่มตลาดเฮลธ์แคร์ – คนรักสุขภาพ โดยจะประเดิมผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารเสริมที่ช่วยในเรื่องการนอนหลับ และผ่อนคลาย เหมาะสำหรับคนวัยทำงาน ผู้สูงอายุ คาดว่าจะจำหน่ายในช่วงเดือนมิถุนายน 2566 ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่เตรียมเปิดตัว จะมีผลิตภัณฑ์บาล์มสำหรับใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อย มีคุณสมบัติในการดูดซับผ่านผิวหนังได้ดี มีสารสกัด CBD ที่มีความเข้มข้นสูงสามารถบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้เร็ว

ส่วนในไตรมาส 3 จะเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มเวชสำอาง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องริ้วรอย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และคาดว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม CBD ในช่วงปลายปีนี้ ขณะเดียวกัน ไทยลีฟ ยังมีแผนธุรกิจสอดรับกับนโยบายภาครัฐ ที่ล่าสุดประกาศเรื่องการขับเคลื่อนแผนพัฒนาการท่องเที่ยว ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2566-2570) ซึ่งมียุทธศาสตร์ด้าน Resilient Tourism ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้มีการกระจายรายได้และความเจริญทางการท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง ซึ่งไทยลีฟมีโรงงานปลูกและสกัดกัญชงที่ตั้งอยู่ที่คลอง 16 อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก จึงตั้งเป้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งขับเคลื่อนเมืองนครนายกในเชิงการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ สู่การเป็นฮับกัญชงใหม่ของภาคกลางและภาคตะวันออก ที่เปิดให้คนในพื้นที่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้สัมผัสและใช้ประโยชน์ของพืชกัญชง และสารสกัด CBD จากกัญชง เป็นส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพกายและใจของผู้บริโภคอย่างครบวงจร

นายยิ่งยศ กล่าวอีกว่า เหตุผลที่เลือกจังหวัดนครนายก เป็นที่ตั้งไร่ปลูกและโรงงานสกัดกัญชงนั้น เนื่องจากเล็งเห็นความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ ด้วยจังหวัดนครนายกติดกับจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งนับเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านสมุนไพร และนครนายกตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทำให้สะดวกต่อการเดินทางเข้าไปดูแล ตรวจสอบการปลูกกัญชง การเพาะ การสกัดในทุกๆ กระบวนการ ซึ่งการจะทำให้ได้มาซึ่งสารสกัด CBD จากกัญชงที่มีค่าสูงสำหรับทำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เราต้องใส่ใจดูแลการปลูกอย่างมากเพราะกัญชงปลูกลงดินไม่ได้ เนื่องจากเป็นพืชที่ดูดซึมรับสารทุกอย่าง จึงทำให้อาจรับสารพิษหรือสารปนเปื้อนได้ ดังนั้นไทยลีฟ จึงปลูกกัญชงในภาชนะที่วางเหนือพื้นดิน ใช้ปุ๋ยที่ผ่านการควบคุม และมีการแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่ โดยทุกขั้นตอนจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชงที่เป็นพาร์ทเนอร์กับไทยลีฟคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานสูงสุดและปลอดภัยที่สุด เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค