“มนัญญา” สั่งตรงกรมวิชาการเกษตรตั้งหน่วยเฉพาะกิจ “ระดับกรม” ขึ้นตรงอธิบดี หวังดัน“ทุเรียนไทย ทุเรียนคุณภาพ ”

  •  
  •  
  •  
  •  

 “มนัญญา” เผยกลางปิดงานสัมมนา“ทุเรียนไทย ทุเรียนคุณภาพ ” ว่าได้สั่งกรมวิชาการเกษตรตั้งหน่วยเฉพาะกิจ “ระดับกรม” ขึ้นตรงอธิบดี ลุยตรวจสอบทุเรียนต้องได้คุณภาพ ปราบปรามทุเรียนสวมสิทธิ์ขั้นเด็ดขาด  พร้อมเน้นย้ำทุกภาคส่วนร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานทุเรียนส่งออก  ขณะที่อธิบดีกรมวิชาการเกษตรระบุส่งข้อมูลทะเบียนสวนรูปแบบรหัสใหม่ที่ขึ้นทะเบียนแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ให้จีนแล้ว

     วันที่ 19 ธันวาคม 2565 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานกล่าวเปิดการสัมมนา “ทุเรียนไทย ทุเรียนคุณภาพ” โดยได้เน้นย้ำทุเรียนไทยต้องมีคุณภาพรักษาภาพลักษณ์ห้ามสวมสิทธิ์ ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ จ.นนทบุรี ว่า ได้สั่งกรมวิชาการเกษตรตั้งหน่วยเฉพาะกิจ“ระดับกรม” ขึ้นตรงอธิบดีลุยตรวจสอบทุเรียนต้องได้คุณภาพ ปราบปรามทุเรียนสวมสิทธิ์ขั้นเด็ดขาด ผู้ประกอบการและเกษตรกรต้องยกระดับคุณภาพและมาตรฐานทุเรียนส่งออก ผลผลิตต้องผลิตจากสวนมาตรฐาน GAP ที่กรมวิชาการเกษตรเปลี่ยนใบรับรอง GAP รูปแบบใหม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั่วประเทศแล้ว ซึ่งการสัมมนาในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสมาคมผู้ประกอบการพืชผักผลไม้ไทย สมาคมทุเรียนไทย สมาคมตัวแทนขนส่งทางอากาศไทย สภาหอการค้าไทย สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการ และ เกษตรกร
ร่วมจัดงานเพื่อยกระดับความร่วมมืออย่างใกล้ชิด

      อย่างไรก็ตาม  การบริหารการส่งออกทุเรียนตลอดSupply Chain ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วนจึงจะ ส่งผลต่อความสามารถในการส่งออก เป็น “ทุเรียนไทย ทุเรียนคุณภาพ (Premium Thai Durian)” โดยได้มอบนโยบาย ในการสัมมนา ดังนี้ 1.กรมวิชาการเกษตรขึ้นทะเบียน และต่ออายุสวนGAPให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน และสร้างการรับรู้ด้านการผลิตที่มีคุณภาพ และได้ส่งข้อมูลทะเบียนสวนในรูปแบบรหัสใหม่ที่กรมวิชาการเกษตรขึ้นทะเบียนแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ให้จีนแล้ว, เพิ่มขีดความสามารถพร้อมยกระดับมาตรฐานโรงรวบรวมและคัดบรรจุทุเรียนสดเพื่อส่งออก,2.เป็นทุเรียนคุณภาพได้มาตรฐาน ไม่เป็นทุเรียนอ่อนมาจากสวนของเกษตรกรในประเทศไทย ตรวจติดตามแหล่งที่มาได้,3.การตรวจและรับรองสุขอนามัยพืชของทุเรียนสดต้องเป็นตามข้อตกลงพิธีสารการส่งออก ผลไม้ไทย-จีน, 4. การแลกเปลี่ยนข้อมูลรับรองสุขอนามัยพืช ระหว่างกระทรวงเกษตรของไทยและกระทรวงศุลกากรเกษตรของจีน (GACC) เช่น ทะเบียนโรงคัดบรรจุ (DOA)ทะเบียนGAP รูปแบบใหม่ ซึ่ง GACC ได้พิจารณาอนุมัติ และกำหนดให้ใช้รหัสใหม่ตั้งแต่ วันที่ 26 ธันวาคม 2565 และการพัฒนาแลกเปลี่ยนข้อมูลใบรับรองสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์,และ 5.มอบหมายให้ทูตเกษตรไทยในจีนทั้ง 3 หน่วยงาน มีการติดตามสถานการณ์นำเข้า ณ ประเทศจีน และการตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและอำนวยความสะดวกให้กับการส่งออกทุเรียนไทย

      ด้านนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่ากรมวิชาการเกษตรได้ขับเคลื่อนนโยบายการผลิตทุเรียนคุณภาพเพื่อการส่งออก ได้มาตรฐานไปจีนจึงได้จัดเสวนา เรื่อง“ทุเรียนคุณภาพ ทิศทาง โอกาส และความท้าทาย” โดยมีนายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ผู้แทนมกอช. ทูตเกษตรประจำประเทศจีน (ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว) ร่วมเสวนา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นสร้างความเข้าใจกระบวนการตรวจสอบคุณภาพและรับรองสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกทุเรียนทั้งระบบ สถานการณ์ทุเรียนไทยในตลาดจีน

      ทั้งนี้ในปี 2565 กรมวิชาการเกษตร ได้ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายทางการส่งออก เพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกรักษาตลาดการส่งออกทุเรียนสดไทย ตั้งแต่กระบวนการผลิตที่ต้องผ่านมาตรฐานGAPการตัดทุเรียนคุณภาพ การรวบรวมและคัดบรรจุมีคุณภาพได้มาตรฐาน
และตรวจสอบทุเรียนประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิทุเรียนไทยต้องเป็น“Zero สวมสิทธิ”สามารถติดตามและทวนสอบมาตรการตรวจสอบคุณภาพและรับรองสุขอนามัยพืชสำหรับทุเรียนส่งออกไปจีน ตามนโยบาย
ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

   “การสัมมนาในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งในการส่งออกทุเรียนไทย สร้างการรับรู้ให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของ GAP เพื่อการผลิตทุเรียนคุณภาพ กรมวิชาการเกษตรได้จัด“GAP เคลื่อนที่” เพื่อให้บริการรวดเร็ว ทั่วถึง พร้อมทั้งสร้างความตระหนักให้เกษตรกรมีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค โดยไม่ตัดทุเรียนอ่อนมาจำหน่าย ยกระดับมาตรฐานโรงคัดบรรจุทุเรียนสดเพื่อการส่งออก โดยจัดกลุ่มโรงคัดบรรจุตามสมรรถนะจริง นำหลักการบริหารความเสี่ยงมาใช้ในการดำเนินการรับรองคุณภาพและตรวจสอบด้านสุขอนามัยพืช ณ โรงคัดบรรจุ” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว