สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ (14-18 พ.ย.65) ส่วนใหญ่ทรงตัว ยกเว้นข้าวโพดราคาขยับขึ้น

  •  
  •  
  •  
  •  
ข้าวโพด : ราคาเพิ่มขึ้น
      ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ ราคาเพิ่มขึ้นจากหาบละ 735 บาท เป็นหาบละ 744 บาท เนื่องจากสถานการณ์ฝนตกในต่างจังหวัด ทำให้การเก็บเกี่ยวเริ่มชะลอตัวลง
      ด้านตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนธันวาคม 2565 ราคาอยู่ที่ 665.25 เซนต์/บุชเชล ความคืบหน้าการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพดในสหรัฐฯ ดำเนินไปได้ด้วยดี โดยปัจจุบันอยู่ที่ 93% ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว
        ขณะที่ความคืบหน้าการเพาะปลูกข้าวโพดในประเทศบราซิลอยู่ที่ 85% เร็วกว่าค่าเฉลี่ย สวนทางกับประเทศอาร์เจนตินาที่การเพาะปลูกยังดำเนินไปได้อย่างล่าช้าที่ 26% เพิ่มขึ้นเพียง 3% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านอุปสงค์ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) รายงานยอดการผลิตเอทานอล ลดลงจาก 1.05 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็น 1.01 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์เล็กน้อย
       นอกจากนี้มียอดสั่งซื้อข้าวโพดจากประเทศเม็กซิโก จำนวน 1,242,060 ตัน กำหนดส่งในช่วงฤดูกาลนี้ และอีก 624,840 ตัน กำหนดส่งในช่วงฤดูกาลหน้า ขณะที่ในช่วงสัปดาห์นี้ตลาดยังคงติดตามสถานการณ์การต่ออายุสนธิสัญญาระหว่างประเทศยูเครนและรัสเซียที่จะหมดอายุลงในวันเสาร์นี้
      แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะยืนแข็ง
ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว
      กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้า ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 22.90 บาท สำหรับสภาพอากาศในการเพาะปลูกถั่วเหลืองฤดูกาลใหม่ของประเทศบราซิลดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดการณ์ผลผลิตยังอยู่ในระดับสูง ด้านสหรัฐอเมริกา เริ่มดำเนินการส่งออกเมล็ดถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองแล้ว แต่ยังคงต้องติดตามว่าจะส่งออกได้ดีอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ขณะที่ประเทศจีนปริมาณผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องติดตามสถานการณ์ว่าจะมีมาตรการล็อกดาวน์ระดับใด โดยอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณซื้อในตลาดได้
      ด้านตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนธันวาคม 2565 ราคาอยู่ที่ 1,429.25 เซนต์/บุชเชล และกากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนธันวาคม 2565 ราคาอยู่ที่ 406.6 เหรียญสหรัฐฯ/ช็อตตัน กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ รายงานการเก็บเกี่ยวผลผลิตสหรัฐฯ อยู่ที่ 96% ของพื้นที่คาดการณ์ ซึ่งเร็วกกว่าค่าเฉลี่ย
        ขณะที่ประเทศบราซิลดำเนินการเพาะปลูกได้อย่างรวดเร็ว โดยความคืบหน้าอยู่ที่ 55% ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย ส่วนประเทศอาร์เจนตินาสภาพอากาศดีขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมีฝนตกลงมาในสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านอุปสงค์ National Oilseed Processors Association (NOPA) รายงานยอดการแปรรูปถั่วเหลืองเป็นถั่วเหลืองบด (Soybean Crush) ในสหรัฐฯ ประจำเดือนตุลาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 184.5 ล้านบุชเชล เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า แต่เท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และต่ำกว่าปีที่ผ่านในช่วงเดือนเดียวกันเล็กน้อย
      แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองนำเข้าน่าจะทรงตัว
ปลาป่น : ราคาทรงตัว
      ประเทศเปรูยังคงเลื่อนการประกาศโควต้าจับปลาฤดูกาลใหม่ออกไป ทำให้ตลาดเริ่มมีความกังวลว่าปริมาณโควต้าที่ได้จะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่สถานการณ์ราคาปลาป่นในประเทศจีนทรงตัว เช่นเดียวกับปริมาณซื้อหน้าท่าเรือที่ทรงตัวเช่นกัน ส่วนปริมาณสต๊อกหน้าท่าเรือปรับลดลงเล็กน้อย
      ด้านสถานการณ์ราคาปลาป่นในประเทศ ยังคงทรงตัว โดยปลาป่นเกรดกุ้ง ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 50.00 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 44.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 42.20 บาท
      สำหรับปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 41.70 บาท และปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 โปรตีน ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 40.20 บาท
      แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว
ข้าว : ราคาทรงตัว
      ตลาดซื้อขายข้าวในต่างประเทศสัปดาห์นี้ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ยืนราคาที่ตันละ 447 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาทรงตัวที่ตันละ 395 เหรียญสหรัฐฯ
      ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ยืนราคากระสอบละ 1,490 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาทรงตัวที่กระสอบละ 1,300 บาท
      แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวน่าจะทรงตัว
สุกร : ราคาทรงตัว
      สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ขอความร่วมมือผู้เลี้ยงสุกรรักษาระดับราคาสุกรขุนที่ 100 บาทต่อกิโลกรัมอย่างต่อเนื่อง ด้านลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 3,600 บาท (บวก/ลบ 100) ขณะที่คณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตสุกร ประมาณการต้นทุนการผลิตสุกรไตรมาส 4/2565 เฉลี่ยที่ 101.01 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนความต้องการบริโภคเนื้อสุกรยังคงสูงต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศหนาแน่นเป็นปัจจัยบวกเสริม สำหรับอธิบดีกรมปศุสัตว์คนใหม่จริงจังกับการจัดการขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูมาก สร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรรายย่อยในการกลับมาเลี้ยงใหม่มากขึ้น
      แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะทรงตัว
ไก่เนื้อ : ราคาทรงตัว
      ราคาแนะนำไก่เนื้อมีชีวิต ณ หน้าฟาร์ม จากสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 40 บาท ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 19.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 28.00 บาท
      แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะทรงตัว
ไข่ไก่ : ราคาทรงตัว
      ราคาแนะนำไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร จากเครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ทรงตัวที่ฟองละ 3.60 บาท
      แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะทรงตัว
ที่มา : สื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ CPF