ห้างโมเดิร์นเทรด-ร้านสะดวกซื้อ “ท็อปส์-เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ – แฟมิลี่มาร์ท ในเครือเซ็นทรัล รีเทล” ขานรับนโยบายกรมการค้าภายใน ตั้งเป้ารับซื้อผลไม้เพิ่มขึ้น 100% จากกลุ่มเกษตรกร 1,000 กลุ่มทั่วประเทศ พร้อมจัดแคมเปญ “FRUITS-TIVAL” ทุกสาขาทั่วประเทศ ชูไฮไลท์ทุเรียนแกะเนื้อพูเดียวพร้อมรับประทาน ราคาประหยัด และจัดอีเว้นท์ใหญ่รับเปิดประเทศ Thailand’s Amazing Durian & Fruit Fest 2022 (The Original!) ชวนบริโภคผลไม้ไทยอย่างต่อเนื่อง หวังช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนชาวสวนผลไม้ภาคตะวันออก
นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า จากการคาดการณ์ตัวเลขปริมาณผลผลิตทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในพื้นที่จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด พบว่ามีจะมีผลผลิตรวม 1.19 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 32% (ที่มา :สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) เพื่อเตรียมพร้อมรับมือผลไม้ที่เริ่มออกสู่ตลาดและมีปริมาณผลผลิตสูงกว่าปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ทั้งมังคุด เงาะ และ ทุเรียน โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นฤดูกาลทุเรียนผลไม้ยอดนิยมที่คาดว่าจะมีผลผลิตเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก
ประกอบกับปัจจุบันตลาดส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีนยังไม่สามารถส่งออกได้อย่างเต็มที่ เพื่อเร่งกระจายผลผลิตออกสู่ตลาดให้ถึงมือผู้บริโภคโดยเร็วที่สุด บริษัทฯ ได้เพิ่มปริมาณการรับซื้อผลผลิตผลไม้ภายในประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิม 100% จากพี่น้องชาวสวนทั่วประเทศกว่า 1,000 กลุ่ม เช่น สหกรณ์ส่งเสริมธุรกิจภาคเกษตรจังหวัดตราด กลุ่มเกษตรกรจังหวัดจันทบุรี กลุ่มปัถวีโมเดล (ผลไม้ออร์แกนิค) ฯลฯ
พร้อมกันนี้ได้จัดแคมเปญ “FRUITS-TIVAL” เชิญชวนและรณรงค์ให้เกิดการบริโภคผลไม้ไทยของคนในประเทศ เพื่อร่วมเติมยิ้มสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน – 30 มิถุนายน 2565 ที่ร้านค้าในเครือทุกสาขา โดยชูไฮไลท์บริโภคผลไม้ไทยเกรดพรีเมียม คุณภาพส่งออก ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย มีผลไม้ไฮไลท์ประจำฤดูกาล “ทุเรียน” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น King of Fruit จัดรายการพิเศษ ทุเรียนหมอนทองเกรดพรีเมียม ชั่งเฉพาะเนื้อ 500 กรัม ราคาเพียงแพคละ 399 บาท, 1 กิโลกรัม เพียง 780 บาท จำหน่ายที่ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, เซ็นทรัล ฟู้ดฮลล์ ทุกสาขา, ท็อปส์ ออนไลน์, บริการผู้ช่วยช้อปส่วนตัว (Personal Shopper) และเดลิเวอรี่พาร์ทเนอร์บนแอปพลิเคชัน Grab
นับเป็นครั้งแรกของร้านสะดวกซื้อ กับทุเรียนหมอนทองเกรดพรีเมียม เนื้อเยอะ เม็ดลีบ แกะเฉพาะเนื้อราคาประหยัดขายเป็นพูพร้อมทาน ไม่ต้องซื้อทั้งลูก เหมาะกับคนที่ทานน้อย ราคาจับต้องได้เพียงแพคละ 75 บาท จำหน่ายเฉพาะท็อปส์ เดลี่และแฟมิลี่มาร์ทสาขาที่ร่วมรายการ
พร้อมกลับการกลับมาอีกครั้งในรอบ 3 ปี กับอีเว้นท์ใหญ่ของทุเรียนเลิฟเวอร์ ต้นตำรับบุฟเฟต์ทุเรียนเจ้าแรกในประเทศไทย Thailand’s Amazing Durian & Fruit Fest 2022 (The Original!) วันที่ 18-22 พฤษภาคม 2565 ณ ลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดพรีออเดอร์ซื้อบัตรบุฟเฟต์ล่วงหน้าจากราคาปกติ 479 บาท พิเศษเมื่อจองออนไลน์ผ่าน Hungry Hub (https://bit.ly/HHDurianBuffet) ราคาใบละ 429 บาท
พิเศษมากขึ้นเมื่อจอง 2 ใบขึ้นไป ราคาเพียงใบละ 399 บาทเท่านั้น อิ่มอร่อยกับขบวนทุเรียนหมอนทองคัดคุณภาพในฤดูกาลที่รสชาติดีที่สุด เสริมทัพด้วยผลไม้ไทยนานาชนิดได้แก่ ข้าวเหนียวมะม่วง เงาะ มังคุด มะพร้าวน้ำหอม เมล่อนญี่ปุ่น แตงโม มะม่วงน้ำปลาหวาน ไอศกรีมกะทิสด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลไม้ที่นำมาจำหน่ายเพื่อให้ลูกค้าได้ซื้อและรับประทานผลไม้ในช่วงฤดูกาลที่ดีที่สุด จากการลงพื้นที่สวนทุเรียนในจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราดโดยทีมงานจัดซื้อประจำภูมิภาคและผู้เชี่ยวชาญด้านทุเรียนคอยให้คำแนะนำคัดเลือกสวนทุเรียนจากต้นที่มีอายุมากกว่า 10 ปีที่ให้ผลผลิตคุณภาพเนื้อที่ดี เปลือกบาง เนื้อเยอะ เม็ดลีบ มีมาตรฐานการผลิต (GAP) รับประกันความปลอดภัย
ที่สำคัญสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงสวนได้ทุกผล ควบคุมกระบวนการเก็บเกี่ยวเฉพาะในระยะแก่จัด (มีการควบคุมอายุเฉลี่ย 120 วันหลังจากวันดอกบานและก่อนเก็บมีการตรวจสอบความแก่เนื้อทุเรียนด้วยการหา % น้ำหนักเนื้อแห้งขั้นต่ำ 35%) ตามมาตรฐานหัวใจคุณภาพ (Quality at Heart) เพื่อให้มั่นใจว่าได้ทุเรียนที่เนื้อเนียน หวาน กลมกล่อม อร่อยสุด ตามฤดูกาล ดูแลทุกขั้นตอน อีกทั้งยังมีการอบรมพนักงานขายประจำสาขา หรือ “คุณทุเรียน” ผู้เชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำ คัดเลือกทุเรียนตามความต้องการของลูกค้า
“เชื่อมั่นว่าการจัดแคมเปญรณรงค์บริโภคผลไม้ไทย “FRUITS-TIVAL” และงาน Thailand’s Amazing Durian & Fruit Fest 2022 (The Original!) พร้อมทั้งการประชาสัมพันธ์และจัดจำหน่ายใน ทุกช่องทางของท็อปส์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และแฟมิลี่มาร์ท จะเป็นอีกหนึ่งมาตรการความช่วยเหลือเกษตรกร กระตุ้นให้เกิดการบริโภคผลไม้ตามแผนบริหารจัดการผลไม้ไทย และเป็นการบูรณาการความร่วมมือของภาคเอกชน เพื่อให้เกิดประโยชย์สูงสุดต่อทั้งภาคเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้และภาคประชาชนผู้บริโภคในประเทศ เป็นไปตามนโยบายของเซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งดำเนินธุรกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ สร้างรายได้ สร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับพี่น้องเกษตรกรไทย” นายสเตฟาน กล่าว