“มนัญญา” เตรียมชงนายกฯ ดึงดีเอสไอ-ปปง. สอบโกงในสหกรณ์ออมทรัพย์ มั่นใจอีกไม่นานได้เงินคืน

  •  
  •  
  •  
  •  

มนัญญา” เตรียมชงนายกฯ ลงนามหนังสือถึงดีเอสไอ-ปปง. ยกกรณีทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ เป็นคดีพิเศษ ยันคุ้มครองความเสียหายของสมาชิก เบื้องต้นพบเสียหาย 491 ล้านบาท 85 ราย มั่นใจใช้เวลาไม่นานในการการสืบทรัพย์ที่จะนำมาคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้ ฝากไปถึงผู้กระทำผิด 2 รายที่หนีไปนอกรีบกลับมามอบตัว เผยตอนนี้ครอบครัวเดือดร้อนแล้ว

            นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือการแก้ไขปัญหาเงินฝากของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ที่ได้รับความเสียหายจากการทุจริตของเจ้าหน้าที่สหกรณ์  ณ ห้องประชุม 134 – 135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า จากกรณีที่มีข่าวเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ยักยอกทรัพย์ของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.65 ที่ผ่านมา จึงได้สั่งการให้ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวบรวมรายละเอียดทั้งหมด เบื้องต้นข้อมูล ณ วันที่ 6 เม.ย.65 พบผู้เสียหาย 85 ราย จำนวนเงิน  491 ล้านบาท

            ทั้งนี้ ได้ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้าไปร่วมกับกรรมการสหกรณ์ในการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้ง 2 ราย รวมทั้งประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้คดีนี้เข้าไปอยู่ในกฎหมายปปง.และดีเอสไอ เพื่อสามารถตรวจสอบเชิงลึก เรียกหลักฐานเอกสาร บัญชีและทรัพย์สินที่มีการโอนถ่ายหรือแอบแฝงไว้ในบัญชีผู้อื่น

         นอกจากนนั้น ขอฝากให้สหกรณ์ทั่วประเทศนำระบบเงินฝากเข้าสู่ระบบแอปพลิเคชั่นที่กสส. และกตส. ได้ทำขึ้น เพื่อให้สมาชิกผู้ฝากเงินสามารถตรวจสอบสถานะทางการเงินของแต่ละคนได้ตลอดเวลา (Real Time) กรณีที่สหกรณ์ใดประวิงเวลาหรือไม่ดำเนินการตามนี้ ก็อาจจะเป็นเหตุให้ตั้งข้อสงสัยได้ว่าส่อกระทำการทุจริตหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องฝากสมาชิกสหกรณ์ทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนให้สหกรณ์ของตัวเองเข้าสู่ระบบแอปพลิเคชั่นดังกล่าว

         นางสาวมนัญญา กล่าวอีกว่า ตนจะทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ลงนามให้เรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ ซึ่งล่าสุด ตนและกสส. กตส. มีหลักฐานเส้นทางการเงิน เส้นทางทรัพย์สิน ทั้งในอดีตหรือแม้กระทั่งการใช้จ่ายซื้อของล่าสุดไว้ในมือหมดแล้ว แต่บางรายการเปิดเผยไม่ได้ เพราะอาจกระทบกับหลักฐาน ดังนั้นขอฝากไปยังเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตว่า ควรมามอบตัวและคืนทรัพย์สินที่มีการยักยอกไป เพื่อบรรเทาโทษ

         “ดิฉันเชื่อว่าการสืบทรัพย์จะใช้เวลาไม่มากที่จะนำมาคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ ส่วนผู้กระทำผิดนั้น ขณะนี้ได้รับรายงานว่าบางคนหนีไป สปป.ลาว บางคนหนีไปประเทศเวียดนาม ก็ขอฝากไปถึงทั้งสองคนว่า ให้กลับมามอบตัวเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะขณะนี้การกระทำของทั้งสองคนทำให้ครอบครัวเดือดร้อน” นางสาวมนัญญา กล่าว

         รมช.เกษตรฯ กล่าวต่อไปว่า ตนได้สั่งการให้ กสส. และกตส. เร่งรัดดำเนินการใน 2 มาตรการคือ 1. ให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง 2 กรม เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาของสหกรณ์ และผลกระทบที่สมาชิกได้รับและรายงานผลให้ทราบภายในเดือน เม.ย.นี้ นอกจากนั้นให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หากพบรายใดมีส่วนกระทำผิดให้ใช้อำนาจนายทะเนียนสั่งหยุดหน้าที่หรือให้พ้นจากตำแหน่งทันที

          กรณีหากจำเป็นให้พิจารณาตั้งคณะกรรมการชั่วคราวขึ้นมาแก้ไขปัญหาได้ รวมทั้งให้อธิบดีทั้งสองกรมประสาน ปปง. และดีเอสไอตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดของผู้กระทำผิด ทั้งสืบค้น อายัดทรัพย์สิน เพื่อป้องกันความเสียหายให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด (เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นมากกว่า 100 ล้านบาท) 2. ให้กตส. ตรวจสอบสถานะทางการเงินของสหกรณ์ว่ายังมีสภาพคล่องอย่างไร ดำเนินกิจการได้ตามปกติหรือไม่ และให้ตรวจสอบการทำงานของเอกชนที่สหกรณีจ้างตรวจบัญชีว่า มีมาตรการการตรวจสอบอย่างไร

        อย่างไรก็ตาม ระหว่างการตรวจสอบควรระงับการสอบบัญชีของเอกชนรายนี้ หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นให้ถอดชื่อออกจาทำเนียบของกรม หรือแบล็คลิสต์ ส่วนการแก้ไขในระยะต่อไป ให้ทั้งสองกรมไปตรวจสอบว่ายังมีช่องโหว่ใด ของระเบียบและกฎหมายที่ทำให้สามารถทุจริตได้

         ด้าน ดร.ทองเปลว  กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งให้ปิดสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ห้ามคนเข้าไป เพื่อป้องกันการทำลายเอกสาร นอกจากนั้น ได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขข้อบกพร่องโดยเร่งด่วน โดยให้ไปดูว่าระเบียบคำสั่งใดที่สมควรต้องมีการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องอะไรหรือไม่ เพื่อนำมาสู่การพิจารณาปรับปรุงให้บังคับใช้ได้ในระยะต่อไป

        ขณะที่นายประกอบ เผ่าพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นพบผู้เสียหาย 85 ราย วงเงิน 491 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มเติม เนื่องจากยังตรวจสอบไม่ครบ 100% ดังนั้นขอให้สมาชิกสกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ทุกท่าน เร่งแจ้งรายชื่อหรือตรวจสอบทรัพย์สินของตนภายในวันที่ 8 เม.ย. นี้ เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ครอบคลุมทั้งหมด

         ส่วนนางอัญชนา ตราโช รองประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า สหกรณ์มีทุนเรือนหุ้น 1,574 ล้านบาท เงินฝากของสมาชิกออมทรัพย์ 1,600 กว่าล้านบาท ทุนสำรอง 151 ล้านบาท และเงินลงทุน 650 ล้านบาท ทั้งนี้สหกรณ์พร้อมที่จะนำเอาเงินลงทุน 650 ล้านบาทมาสำรองเพื่อแก้ไขความเสียหายดังกล่าว บรรเทาความเดือดร้อนสมาชิกที่ได้รับความเสียหาย ดังนั้นสหกรณ์ยังมีความมั่นคงทางการเงินในการให้บริการแก่สมาชิก

        สำหรับในการประชุมวันนี้ มีสมาชิกสหกรณ์ผู้เสียหายที่ถูกถอนเงินออกจากบัญชีเข้าร่วมชี้แจงจำนวนมาก โดยบางรายชี้แจงว่าบัญชีถูกถอนตั้งแต่ปี 2559 จำนวน 40 ครั้ง ขณะที่บางรายถูกถอนจำนวน 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่ถูกถอน คือเดือนสิงหาคม 2564 รวมยอดที่ถูกถอนจำนวน 3.4 ล้านบาท อีกรายแจ้งว่าถูกถอนตั้งแต่ปี 2561 จนถึง 7 มี.ค.65 รวม 11 ครั้ง.