กระทรวงเกษตรฯ ยืนยันยังไม่มีสินค้าเกษตรจากจีนทะลักเข้าไทย ผ่านเส้นทางรถไฟลาว-จีนเพิ่มขึ้น ระบุเพียงแต่จีนนำสินค้าที่ส่งปกติ ทดลงสับเปลี่ยนเส้นจากรถยนต์ที่เคยผ่านถนนเส้นทาง R3A มาเป็นรถไฟจำนวน 33 ตู้ มีปริมาณ 600 ตันเท่านั้น ส่วนการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปจีนผ่านด่านรถไฟโม่ฮาน ยังไม่สามารถใช้งานได้ คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ในเดือนเมษายน 2565 เผยได้กำชับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทั้งด้านคุณภาพ และปฏิบัติตามระเบียบอย่างรัดกุม
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยถึงกระแสข่าวมีสินค้าเกษตรโดยเฉพาะผักและผลไม้จีทะลักเข้ามาในประเทศไทยหลังจากเปิดเส้นทางรถไฟลาว-จีน ว่า เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งนับจากเปิดเที่ยวปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 กระทรวงเกษตรฯ ได้ตรวจสอบข่าวจากทั้งหน่วยงานในกระทรวง รวมถึงหน่วยงานในจังหวัดแล้ว ขอยืนยันว่า ไม่ได้มีสินค้าทะลักมาตามที่ข่าวกล่าวอ้างแต่อย่างใด และยังไม่มีผู้ประกอบการมาติดต่อขอนำสินค้าเกษตรจำนวนมากผิดปกติ
จากรายงาน มีเพียงทางจีนได้มีทดลองขนส่งผักมาไทย จำนวน 33 ตู้ เป็นผักเมืองหนาว รวมปริมาณ 600 ตัน มูลค่า 8.026 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเปลี่ยนเส้นทางขนส่งจากรถบนเส้นทางR3A มาเป็นรถไฟ เนื่องจากการจราจรด่านโมฮ่านของจีน ค่อนข้างแออัดเป็นอย่างมาก จึงเป็นเพียงการเปลี่ยนเส้นทางขนสินค้าเท่านั้น สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปจีนผ่านด่านรถไฟโม่ฮาน ยังไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างรอการตรวจรับสถานที่ควบคุมตรวจสอบเฉพาะสำหรับสินค้านำเข้า คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ในเดือนเมษายน 2565
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมความพร้อมและอยู่ระหว่างเตรียมการส่งออก ผัก ผลไม้ รวมทั้ง กล้วยไม้และยางพาราบนเส้นทางรถไฟไทย-จีน-ลาว โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟสายไทย-ลาว-จีน ซึ่งกำหนดแนวทางการพัฒนา 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) การเตรียมความพร้อมของด่านและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น 2) การเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร/อัตรากำลังประจำด่านเพื่อให้สามารถให้บริการได้เพียงพอ 3) การพัฒนาและเชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เชื่อมต่อกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องด้านการนำเข้า-ส่งออก (เช่น ระบบ NSW และการพัฒนาระบบให้รองรับการชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง e-paymentเป็นต้น และ 4) ปรับปรุงกฎระเบียบ วิธีปฏิบัติรองรับการให้บริการส่งออก-นำเข้า ณ จุดผ่านแดนในระยะยาว
ด้านนายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวเพิ่มเติมว่า นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำชับและสั่งการให้กรมวิชาการเกษตรติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิดซึ่งกรมวิชาการเกษตร พบว่า การนำเข้าผัก ผลไม้จากจีนอย่างใกล้ชิด โดยด่านตรวจพืชหนองคาย ได้ดำเนินการตรวจการนำเข้าอย่างเข้มงวดตามที่กฎหมายกำหนดโดย การนำเข้าสินค้าเกษตรทางรถไฟ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 พบว่า มีการนำเข้าสินค้าตระกูลกะหล่ำ 32 รายการจำนวน 462 ตัน มูลค่า 8.27 ล้านบาท และบัวหิมะ 25.5 ตัน มูลค่า 467,032 บาท รวมทั้งสิ้น 33 ตู้
ปัจจุบันยังไม่มีการนำเข้ามาทางรถไฟเพิ่ม เนื่องจากรอการรวบรวมสินค้าเกษตรกลุ่มธัญพืช และอื่น ๆ ให้เต็มทั้ง 33 ตู้ ส่งกลับออกไปขายให้กับพ่อค้าจีน กรณีการนำเข้าผลไม้จากจีนนั้น ไม่สามารถนำเข้าผ่านด่านหนองคายได้เนื่องจากไม่ได้อยู่ในข้อกำหนดในพิธีสารไทยจีน โดยในพิธีสารไทย-จีนกำหนดด่านที่นำเข้าส่งออกผลไม้จากจีน-ไทย ได้มีเพียง 5ด่านเท่านั้น ได้แก่ ด่านเชียงของ ด่านนครพนม ด่านมุกดาหาร ด่านผักกาดจันทบุรี และด่านบึงกาฬ