ชาวสวนมะพร้าวเตรียมรับมือ มติ กก.พืชน้ำมันฯ เห็นชอบให้นายทุน 15 ราย อาศัย AFTA นำเข้าช่วง 2 อีกเกือบ 8 หมื่นตัน

  •  
  •  
  •  
  •  

ผลการประชุมณะกรรมการพืชน้ำมันฯ มีมติเห็นชอบบริหารนำเข้ามะพร้าว ช่วงที่ 2 ภายใต้ AFTA  ให้ผู้นำเข้า 15 ราย ให้นำเข้า 1 ส่วน รับซื้อในประเทศ 2.5 ส่วน รวมปริมาณจัดสรรนำเข้า 78,477 ตัน พร้อมออกมาตรการเซฟการ์ด ห้ามนำเข้าเกิน 3.11 แสนตัน หวั่นกระทบชาวสวนมะพร้าว ขณะที่ความเป็นจริงช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด การบริโภคน้อยลง ทำให้ราคามะพร้าวที่ชาวสวนขายราคาตกกราวรูด ผลใหญ่เหลือเพียงผลละ 8 บาทจากเดิม 11 บาท 

      นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช ครั้งที่ 1/2564 ซึ่งมีนายจุรินทร์   ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการบริหารการนำเข้ามะพร้าวผลพิกัดฯ 0801.12.00  พิกัดฯ 0801.19.10 และพิกัดฯ 0801.19.90 ตามกรอบความตกลง ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ  AFTA ปี 2564 ช่วงที่ 2 (เดือนกันยายน – ธันวาคม 2564) โดยใช้ผลการรับซื้อผลผลิตมะพร้าวในประเทศของผู้ประกอบการฯ ตั้งแต่วันที่1 มกราคม – 6 สิงหาคม 2564 มาพิจารณาจัดสรรปริมาณนำเข้าให้แก่ผู้มีสิทธินำเข้าในอัตรา 1 : 2.5 (นำเข้า 1 ส่วน ต่อการรับซื้อมะพร้าวผลในประเทศ 2.5 ส่วน) จำนวน 15 ราย รวมปริมาณจัดสรรนำเข้า 78,477 ตัน ทั้งนี้ การนำเข้าต้องเป็นไปตามประกาศกรมการค้าต่างประเทศ

                                                          ฉันทานนท์ วรรณเขจร 

     นอกจากนี้ เพื่อปกป้องเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก คณะกรรมการพืชน้ำมันฯ ได้มีมติเห็นชอบการใช้มาตรการปกป้องพิเศษ (Special Safeguard Measure : SSG) ภายใต้ความตกลงขององค์การการค้าโลก หรือ WTO ปี 2564 โดยใช้หลักการคำนวณ Trigger Volume (ตารางระดับปริมาณการนาเข้า) ที่ปริมาณสินค้ามะพร้าว 311,235 ตัน ซึ่งคำนวณจากข้อมูลปริมาณการนำเข้ามะพร้าวพิกัดฯ 0801.12.00 พิกัดฯ 0801.19.10 และพิกัดฯ 0801.19.90 ย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี (ปี 2561 – 2563)

     กล่าวคือหากมะพร้าวที่นำเข้ามาในประเทศไทยรวมกันเกินกว่าปริมาณ 311,235 ตัน ตามที่ Trigger Volume กำหนด ทางกรมศุลกากรจะจัดเก็บอากรในอัตราที่เพิ่มขึ้น โดยถ้าเป็นการนำเข้าภายใต้ความตกลง WTO นอกโควตาจะเก็บอากรร้อยละ 72 (จากเดิมร้อยละ 54) และภายใต้ความตกลง AFTA จะเก็บอากรเป็นร้อยละ 72 (จากเดิมร้อยละ 0)

      ทั้งนี้ เมื่อคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบการใช้มาตรการปกป้องพิเศษ (SSG) ตามที่คณะกรรมการพืชน้ำมันฯ เสนอเรียบร้อยแล้ว ทางกรมศุลกากร จะเร่งดำเนินการยกร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องการเก็บอากรศุลกากรตามมาตรการปกป้องพิเศษ ตามความตกลงการเกษตรขององค์การการค้าโลก และความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน สำหรับสินค้ามะพร้าว พ.ศ. …. และประกาศกำหนดวันเริ่มใช้มาตรการปกป้องพิเศษ (SSG)

      โดยกรมศุลกากร จะมีการส่งข้อมูลการนำเข้าสินค้ามะพร้าว ในพิกัดดังกล่าว ให้ สศก. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพืชน้ำมันฯ ทราบเป็นรายสัปดาห์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการแจ้งเตือนเมื่อมีการนำเข้าถึงปริมาณที่ Trigger Volume กำหนด ก่อนดำเนินการจัดเก็บอากรในอัตราที่เพิ่มขึ้นต่อไป โดยมาตรการ SSG จะมีผลบังคับใช้สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564

       อย่างไรก็ตาม  สศก. คาดการณ์ ว่า ปี 2564 (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2564 ) จะมีผลผลิตมะพร้าว 0.876 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการใช้ยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 1.269 ล้านตัน และคาดว่าในปีนี้ จะมีการนำเข้ามะพร้าวและผลิตภัณฑ์รวม 0.418 ล้านตัน ซึ่งจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการใช้ในช่วงครึ่งปีแรกยังคงชะลอตัว ส่งผลให้ราคาที่เกษตรกรขายได้มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคามะพร้าวผลใหญ่ที่เกษตรกรขายได้ในเดือนสิงหาคม 2564 เฉลี่ยผลละ 8.19 บาท ลดลงจาก 11.91 บาท ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือลดลงร้อยละ 31.23