กรมวิชาการเกษตรเจ้าภาพจัด “เฟ้นหาสุดยอดกาแฟไทย” เป็นครั้งแรก หมดเขตรับสมัคร 23 เม.ย.นี้

  •  
  •  
  •  
  •  

ตาามที่กรมวิชาการการเกษตร นำทัพหน่วยงานรัฐจับมือภาคเอกชนร่วมจัดงานประกวด “สุดยอดกาแฟไทย ปี 2564” ครั้งแรก เพื่อการค้นหาทั้งเมล็ดกาแฟอะราบิกาและโรบัสตาคุณภาพดี  กลิ่นและรสชาติโดนใจคอกาแฟ  ทางองค์การกาแฟระหว่างประเทศได้จัดงบประมาณ 1 ล้านบาทให้ประเทศไทยเพื่อสนับสนุนร่วมจัดงานนี้ โดยหวังที่จะสร้างการรับรู้ชูจุดเด่นกาแฟไทยยืนหนึ่งคุณภาพดีระดับโลก ช่วยเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้และความยั่งยืนให้แก่เกษตรกรจากเดิมที่ให้ผู้สนใจส่งเมล็ดกาแฟเข้าประกวดส่งใบสมัครได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 25564 นั้นได้ขยายเวลาสมัครไดเในวันสุดท้าย วันที่ 23 เมษายน 2564 นี้

      นายพิเชษฐ์  วิริยะพาหะ  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  กาแฟนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยที่สร้างมูลค่าถึง 33,000 ล้านบาท  สร้างรายได้แก่เกษตรกรและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง  อย่างไรก็ตาม สถานการณ์วิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลก รวมทั้งการดำรงชีวิตและการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านกาแฟที่ชะลอการรับซื้อผลผลิตกาแฟของเกษตรกร ทำให้ผลผลิตกาแฟคงค้างอยู่ที่เกษตรกรและผู้ประกอบการจำนวนกว่า 2,000 ตัน และในช่วงเดือนมีนาคม 2564 นี้ ผลผลิตกาแฟฤดูกาล 2563/2564 จะเข้ามาเพิ่มอีกจำนวนกว่า 9,000 ตัน ในขณะที่สถานการณ์ของโควิด-19 ยังมีการแพร่ระบาดอยู่จนถึงปัจจุบัน

                                                    พิเชษฐ์  วิริยะพาหะ 

   ดังนั้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนกาแฟและผู้ประกอบการ  รวมทั้งประเทศไทยยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่มีการศึกษาเอกลักษณ์รสชาติกาแฟ ซึ่งหากทราบรสชาติและเอกลักษณ์ของกาแฟ จะสามารถนำมาประชาสัมพันธ์เพิ่มโอกาสทางการตลาดและการจำหน่ายผลผลิตของเกษตรกรได้  กรมวิชาการเกษตรจึงได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สมาคม และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกาแฟ จัดกิจกรรมการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ประจำปี 2564 (Thai Coffee Excellence 2021) เพื่อส่งเสริม ประชาสัมพันธ์เอกลักษณ์  สร้างมูลค่าเพิ่มและขยายโอกาสช่องทางการตลาดให้กับกาแฟไทยเพิ่มขึ้น  รวมทั้งยังช่วยระบายผลผลิตของเกษตรกรได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

      นายพิเชษฐ์  กล่าวอีกว่า การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นปีแรกที่องค์การกาแฟระหว่างประเทศได้จัดสรรงบประมาณจากกองทุนพิเศษจำนวน ประมาณ 1 ล้านบาท ให้แก่ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกจัดกิจกรรมดังกล่าวเพื่อประชาสัมพันธ์กาแฟไทย สร้างการรับรู้ จุดเด่นของกาแฟไทย ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคนักดื่มกาแฟรุ่นใหม่รวมทั้งความพิเศษของการประกวดครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จะมีการประกวดทั้งกาแฟอะราบิกาและโรบัสตา เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีแต่การประกวดเฉพาะกาแฟอะราบิกาเท่านั้น 

     ทั้งนี้กรมวิชาการเกษตรเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดการประกวดสุดยอดกาแฟอะราบิกาและโรบัสตาของประเทศไทยในครั้งนี้ เพื่อค้นหาเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดี ตั้งแต่ต้นทางการปลูกกาแฟ รวมถึงรสชาติกาแฟ จนได้เป็นเมล็ดกาแฟไทยเกรดพิเศษ   และรณรงค์ส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟให้ตระหนักถึงความสำคัญของการปลูกกาแฟให้ได้ผลผลิตกาแฟอย่างมีคุณภาพและแสดงถึงอัตลักษณ์กาแฟไทย  รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนากาแฟไทยให้มีคุณภาพดีสู่ระดับโลก เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้และความยั่งยืนแก่เกษตรกร 

      สำหรับผู้ที่สนใจยื่นใบสมัครได้จนถึงวันที่ 23 เมษายน 2564และสามารถส่งกาแฟที่จะนำเข้าประกวดได้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตรเกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์/วิสาหกิจชุมชนที่สนใจส่งเมล็ดกาแฟเข้าประกวดสามารถดูรายละเอียดการสมัครได้ที่เว็บไซต์http://www.doa.go.th/hort