ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนเมษายน 2563 ข้าว-หมู-มันฯจะได้อนิสงค์จาก “โควิด”

  •  
  •  
  •  
  •  

                                                                 สมเกียรติ กิมาวหา

ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตร เดือนเมษายน 2563 โดยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ทำให้ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมมะลิ มันสำปะหลัง และสุกรมีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ของตลาด ด้านข้าวเปลือกเหนียวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์น้ำตาลทรายดิบยางพาราแผ่นดิบปาล์มน้ำมัน และกุ้งขาวแวนนาไมมีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลงจากความต้องการของตลาดที่ลดลง

      นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนเมษายน2563ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15%ราคาอยู่ที่ 8,637-8,690 บาท/ตันเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 3.14-3.77

      ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่14,023-14,589 บาท/ตันเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.37-4.42เนื่องจากความต้องการข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ทำให้มีคำสั่งซื้อข้าวจากประเทศที่มีการระบาดฯ เพื่อสำรองไว้บริโภคและเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารในประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และสหภาพยุโรปประกอบกับภาวะภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตข้าวนาปรังออกสู่ตลาดลดลง

       ส่วนมันสำปะหลังราคาอยู่ที่ 1.94-1.99 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.52 – 3.11 เนื่องจากภาวะภัยแล้งส่งผลให้ปริมาณมันสำปะหลังที่ออกสู่ตลาดไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศและการแปรรูปเพื่อส่งออก และ สุกร ราคาอยู่ที่ 69.00 – 73.00 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.47 – 7.35  เนื่องจากประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน ทำให้ผลผลิตสุกรมีชีวิตออกสู่ตลาดน้อยลง อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวที่ซบเซา ส่งผลต่อการบริโภคเนื้อสุกรลดลง อาจทำให้ราคาสุกรขุนปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย

       ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้สินค้าเกษตรบางชนิดมีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง เนื่องจากความต้องการของตลาดที่ลดลงได้แก่ ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ราคา 14,621-14,639 บาท/ตันลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.21-0.33 เป็นผลจากความต้องการใช้ข้าวเหนียวในช่วงเทศกาลเช็งเม้งลดลง เนื่องจากความกังวลทำให้คนไทยเชื้อสายจีนบางส่วนงดการเดินทางไปประกอบพิธีกรรมไหว้บรรพบุรุษ

       ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 7.26-7.35 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.50-1.50เป็นผลจากการบริโภคในประเทศและการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ชะลอตัว ส่งผลให้ความต้องการใช้เพื่อผลิตอาหารสัตว์ลดลง ประกอบกับมีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเมียนมาและเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตฤดูแล้งทำให้ผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น

         น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก  ราคาอยู่ที่ราคา 13.59-14.52เซนต์/ปอนด์ (9.82-10.49 บาท/กก.)ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 6.00-12.00เนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกมีแนวโน้มปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศบราซิลปรับลดสัดส่วนการนำอ้อยไปผลิตเอทานอล และเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำตาล ขณะที่ความต้องการใช้น้ำตาลในภาคอุตสาหกรรมลดลงค่อนข้างมาก จากปัญหาการหยุดชะงักผลิตสินค้า

       ยางพาราแผ่นดิบราคาอยู่ที่36.72-37.62 บาท/กก.ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 1.84-4.21 เนื่องจากความต้องการใช้ยางธรรมชาติปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบ จากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และกลุ่มพันธมิตรยังไม่มีข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิต ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกลดลงปาล์มน้ำมันราคาอยู่ที่ 4.80-5.00 บาท/กก.ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 1.38 – 5.33 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันทางเลือกในประเทศและความต้องการใช้ปาล์มน้ำมันดิบเพื่อผลิตไบโอดีเซลลดลง

       และกุ้งขาวแวนนาไมขนาด 70 ตัว/กก.ราคาอยู่ที่ 135.00 – 141.00 บาท/กก.ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.00- 4.25 เนื่องจากความต้องการในประเทศยังชะลอตัวจากภาคการท่องเที่ยวซบเซา ขณะที่ปริมาณผลผลิตกุ้งเพิ่มขึ้นจากผลผลิตของภาคใต้ที่เริ่มออกสู่ตลาด