ธ.ก.ส. ร่วมเป็นหนึ่งฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ดันโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจฐานรากที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน พร้อมเดินหน้าสร้างธุรกิจชุมชน โชว์ 2 โมเดลความสำเร็จที่อำนาจเจริญและกาญจนบุรี ตอบโจทย์แก้ไขปัญหาความยากจน และระบบเศรษฐกิจชุมชนที่เข้มแข็ง ด้วยการสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเพียง 0.01% ต่อปี เริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม2562-30 พฤศจิกายน 2565
วันที่ 10 ธันวาคม2562 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิธีเปิดและปาฐกถาพิเศษเศรษฐกิจฐานรากประชารัฐสร้างไทย กลไกพาเศรษฐกิจชาติมั่นคงยั่งยืน โดยมีนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)พร้อมผู้บริหารธนาคารรัฐฯ และผู้บริหารบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมเสวนาในช่วง “หัวใจเศรษฐกิจไทยยุคใหม่” ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก มีเกษตรกร ปราชญ์ชาวบ้าน นักวิชาการจากสถาบันอุดมศึกษา และภาคีเครือข่ายภาครัฐเข้าร่วมรับฟังกว่า 1,000 คน ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานีจังหวัดนนทบุรี
นายอภิรมย์ กล่าวว่า ธ.ก.ส. ได้ทำโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย โดยสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจฐานรากที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน ประกอบด้วย กิจกรรมการผลิต กิจกรรมขายผลผลิต กิจกรรมการซื้อและบริโภคของคนในชุมชนอย่างมีส่วนร่วม โดยใช้ทรัพยากรของชุมชน มีการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเกื้อกูลและเป็นธรรม โดยมีแนวทางในการขับเคลื่อนที่เริ่มจากการค้นหาและศึกษาความต้องการของชุมชน ทั้งโอกาส ศักยภาพ ปัญหา แนวทางพัฒนาและแก้ไข เหมือนการระเบิดจากภายใน จากนั้นจึงเริ่มพัฒนา สร้างความเข้มแข็ง โดยยึดหลักตลาดนำการผลิตและมีการกำหนดแผนธุรกิจที่ชัดเจนผสานความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนในด้านความรู้ เทคโนโลยีนวัตกรรม งานวิจัย และงบประมาณอีกทั้ง ธ.ก.ส. ยังช่วยสนับสนุนสินเชื่อให้กับ Smart Farmer ผู้ประกอบการ SMEsเกษตร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์การเกษตร เพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์ คือ ความมั่นคงของเศรษฐกิจฐานราก มีภูมิคุ้มกัน มีรายได้ สวัสดิการสังคม และโอกาสทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น
“ธ.ก.ส.พร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนาชนบทสู่ความยั่งยืนให้กับเกษตรกรลูกค้าจำนวน 6.17 ล้านครัวเรือน สมาชิกกลุ่มเกษตรกร 396,165 กลุ่ม ผู้ประกอบการ SMEsเกษตร 442,887ราย หัวขบวนในการขับเคลื่อน ธุรกิจ SME เกษตร 10,235 ราย ชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง 7,927 ชุมชน ศูนย์เรียนรู้ 315 แห่ง ชุมชนท่องเที่ยว 57 ชุมชน และพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจชุมชนนำร่อง77 แห่งโดยมุ่งเน้นพัฒนาใน3 ด้าน ได้แก่ ด้านเกษตรกรรม (กลุ่มการผลิตกลุ่มบริการและกลุ่มรวบรวม) ด้านท่องเที่ยว (กลุ่มที่พักโฮมสเตย์ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มนำเที่ยวและขนส่ง กลุ่มผลิตภัณฑ์ชุมชน) และด้านอุตสาหกรรม (กลุ่มแปรรูปและกลุ่ม Logistics) โดยตั้งเป้าขยายผลได้ 928 ชุมชน ภายในสิ้นปี 2562 เป็น 9,000 ชุมชนภายในปี 2565″ นายอภิรมย์ กล่าว
พร้อมกันนี้ นายอภิรมย์ ได้นำเสนอโมเดลการพัฒนาธุรกิจชุมชนที่มีศักยภาพ 2 โมเดลได้แก่ชุมชนหนองเม็ก ตำบลคึมใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีพื้นที่ทำการเกษตร 28,346 ไร่ ศักยภาพของชุมชนแห่งนี้ คือ มีกลุ่มเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ มีภูตะวันออร์แกนิคฟาร์มทำหน้าที่เป็นหัวขบวน และชุมชนหนองสาหร่าย อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ต้นแบบชุมชนอุดมสุข ที่พัฒนารูปแบบความรู้ร่วมกับสถาบันการศึกษา ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพัฒนาอ้อยอินทรีย์ การใช้ประโยชน์จากใบอ้อยสู่อุตสาหกรรมพลังงาน การใช้เทคโนโลยีโดรนพร้อมขยายช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกร ผ่านระบบ A-Farmart พัฒนาสถาบันการเงินประชาชน พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจชุมชนด้วยการสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยการอำนวยสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย วงเงิน 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.01%ต่อปีระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2562-30 พฤศจิกายน 2565 สนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้แก่คนในชุมชน ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ยกระดับห่วงโซ่มูลค่าการผลิต อุตสาหกรรม และบริการต่าง ๆ หนุนสร้างSmartFarmer ผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน และพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจฐานราก ซึ่งผู้ประกอบการหรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาใกล้บ้านท่าน