เริ่มแล้วงาน “Thailand Rubber Expo” เปิดเวทีเจรจาธุรกิจยางพารายิ่งใหญ่
เริ่มแล้วงาน “Thailand Rubber Expo” กระทรวงเกษตรฯ โชว์ศักยภาพไทยเป็นผู้นำ ผู้ผลิตยางคุณภาพ และธุรกิจการส่งออกยางพารารายใหญ่ของโลก พร้อมเปิดเวทีเจรจาธุรกิจยางพารา หวังดัน กยท. ก้าวสู่การเป็น “องค์กรชั้นนำระดับสากลในการบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “Thailand Rubber Expo” โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายถาวร เสนเนียมรัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เอกอัครราชฑูต และผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี
เฉลิมชัย ศรีอ่อน
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จัดงาน “Thailand Rubber Expo” ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2562 เพื่อเป็นเวทีในการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการด้านยางพาราทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์จากยางพาราของเกษตรกร สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางไทย และผู้ประกอบกิจการ รวมทั้งเป็นการแสดงศักยภาพความเป็นผู้นำของไทย ในฐานะผู้ผลิตยางคุณภาพและธุรกิจการส่งออกยางพารารายใหญ่ของโลก โดยใช้รูปแบบการบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับวงการยางพาราของไทย เพื่อให้สาธารณชนได้มีโอกาสได้รับความรู้และเข้าใจประโยชน์ของยางพารามากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดและพัฒนานวัตกรรมการแปรรูปยางพาราต่อไป
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการนวัตกรรมและงานวิจัยยางพารา แบ่งออกเป็น 6 โซน ได้แก่ โซนจับคู่ธุรกิจ/นัดหมายเจรจาการค้า โซนออกร้านจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพาราและสินค้าอื่น โซนนิทรรศการนวัตกรรมและงานวิจัยยางพารา โซนเสวนาและจัดกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ในงาน โซนให้บริการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนนิทรรศการให้ความรู้จากของหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมบูรณาการ อาทิ สมาคมยางพาราไทย สมาคมน้ำยางข้นไทย สมาคมไม้ยางพารา นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ Rubber City อีกทั้งยังจะได้จับจ่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพาราและสินค้าอื่นที่เกี่ยวข้อง กว่า 250 ร้านค้า
นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ในแต่ละปีประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางพาราธรรมชาติอันดับหนึ่งของโลก ผลผลิตต่อปีเฉลี่ย 4.9 ล้านตัน สร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 1.5 แสนล้านบาท มีเกษตรกรอยู่ในวงจรการผลิตกว่า 1.7 ล้านครัวเรือน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบอย่างครบวงจร บริหารจัดการเกี่ยวกับการเงินของกองทุนพัฒนายางพารา
รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา โดยการส่งเสริมสนับสนุนและจัดให้มีการศึกษา วิเคราะห์วิจัย พัฒนาเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับยางพารา ส่งเสริม สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง และผู้ประกอบกิจการยาง ทั้งด้านวิชาการ การเงิน การผลิต การแปรรูป การอุตสาหกรรม การตลาด การประกอบธุรกิจ และการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงดำเนินการให้ระดับราคายางพารามีเสถียรภาพด้วย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ พยายามผลักดันให้ กยท. ก้าวสู่การเป็น “องค์กรชั้นนำระดับสากลในการบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ” จึงต้องมีการบูรณาการจากหลายภาคส่วนร่วมกัน เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้นและคุณภาพชีวิตที่มั่นคง พร้อมทั้งสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันเกษตรกร และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบกิจการยาง นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต การค้า และนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม