ซีพีเอฟ ยันสหรัฐฯยกเลิก GSP จากไทยไม่กระทบธุรกิจ มีแค่บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง ยอดขายเพียง 0.2% ท่านั้น

  •  
  •  
  •  
  •  

ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ

 ซีพีเอฟ ยืนยันสหรัฐอเมริกายกเลิก GSP จากไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้า ไม่กระทบธุรกิจ ระบุมีเพียงบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง ที่มียอดขายเพียง 0.2% ของยอดขายรวมเท่านั้นที่จะต้องเสียภาษีในอัตราประมาณ 6% ย้ำธุรกิจเติบโตตามเป้า จากภาวะสุกรดีขึ้นต่อเนื่อง

       นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวถึง กรณีที่สหรัฐอเมริกายกเลิก GSP ในสินค้าจากไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้าว่า สินค้าที่บริษัทส่งออกจากประเทศไทยในกลุ่มที่จะโดนตัด GSP มีเพียงบะหมี่เกี๊ยวกุ้งที่มียอดขายประมาณ 0.2% ของยอดขายรวมที่จะต้องเสียภาษีในอัตราประมาณ 6% เท่านั้น


        “บริษัทได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเข้าไปลงทุนผลิตเพื่อรองรับการบริโภคในประเทศนั้นๆ ทำให้ยอดขายส่วนใหญ่ในส่วนกิจการต่างประเทศนี้มีสัดส่วนประมาณ 70% ของยอดขายรวม และเป็นกิจการที่มีการเติบโตอย่างดีมาตลอด เช่นเดียวกับการขยายธุรกิจในประเทศอเมริกา ซีพีเอฟได้เข้าไปลงทุนผลิตสินค้าอาหารพร้อมรับประทานและมีการเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ และยังคงมีโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง” นายประสิทธิ์ กล่าว

         สำหรับภาวะราคาสุกรได้มีการปรับตัวดีขึ้นโดยลำดับ จากการที่มีการปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลเรื่องโรค ASF ปัจจุบันนี้ราคาสุกรในเวียดนามขึ้นมาอยู่ที่ระดับราคาประมาณ 55,000-57,000 ด่อง ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่สูงสุดของปี ส่วนราคาสุกรในไทยก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามงผลการดำเนินงานปีนี้ ธุรกิจน่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย และยังคงมั่นใจปีหน้าผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตต่อเนื่อง

        ในส่วนของมาตรฐานการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับ Perpetual Bond ที่บริษัทมีอยู่นั้น ไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานและผลการจัดอันดับเครดิตของบริษัทดังเช่น ที่มีหน่วยงานหนึ่งได้ให้ข้อมูลต่อสาธารณะมา