องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก มอบฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับผลิตภัณฑ์เป็ด จาก ซีพีเอฟ จำนวน 12 รายการ เผยเป็นผลิตภัณฑ์เป็ดรายแรกของประเทศไทย พร้อมรับรองผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์บกอีก 610 รายการ และผลิตภัณฑ์ไก่สดต่ออายุฉลากอีก 1 รายการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการลดผลกระทบจากดำเนินธุรกิจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจอาหารสัตว์บก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า การจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ และฉลากลดโลกร้อน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ CPF Green Revenue ซึ่งตอกย้ำว่ารายได้ของบริษัทมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์สีเขียว (Green Product) เช่น ผลิตภัณฑ์ที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองฉลากสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงสนับสนุนการประเมินความยั่งยืนทางธุรกิจของดัชนีความยั่งยืนระดับโลก เช่น DJSI, MSCI และ FTSE โดยในปี 2561 บริษัทมีรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์สีเขียว รวมมูลค่า 17,764 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10 ของรายได้จากกิจการในประเทศไทย
“การทำฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ช่วยให้บริษัททราบถึงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ของแต่ละผลิตภัณฑ์ตลอดวัฏจักร นำไปสู่การวิจัย ให้เกิดการใช้วัตถุดิบ พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อร่วมรณรงค์ในการลดภาวะโลกร้อน” นายเรวัติ กล่าว
ทั้งนี้ มีผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์บก รวมทั้งสิ้น 610 รายการ เช่น อาหารไก่เนื้อ ไก่พันธุ์ เป็ด สุกร ไก่ไข่ วัว แพะ และจิ้งหรีด ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เป็ดของซีพีเอฟ เป็นผลิตภัณฑ์เป็ดรายแรกของประเทศไทยที่ได้รับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ประกอบด้วย เป็ดสด เป็ดปรุงสุก ตลอดจนลูกเป็ดและเป็ดมีชีวิต 12 รายการ โดยผลิตภัณฑ์ 7 รายการ ยังได้รับฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (ฉลากลดโลกร้อน) จาก อบก.ด้วย
ทำให้ซีพีเอฟ เป็นบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์รวมมากที่สุดในประเทศไทย ถึง 770 รายการ นับตั้งแต่ปี 2552 ถึงปัจจุบัน นอกจากโครงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์แล้ว ซีพีเอฟ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน ผ่านโครงการ เช่น โครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ และโครงการซีพีเอฟโซลาร์รูฟท็อปในฟาร์มเลี้ยงสัตว์
ด้านนางสาวกุหลาบ กิมศรี รองกรรมการผู้จัดการ สำนักระบบมาตรฐานสากล ซีพีเอฟ กล่าวว่า ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เป็นการแสดงข้อมูลให้ผู้บริโภคทราบถึงการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ เป็นการส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมถึงเพิ่มขีดความสามารถให้กับสินค้าไทยในตลาดโลก ซึ่งผู้บริโภค และนักลงทุนเริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์อีกด้วย
สำหรับ “ฉลากลดโลกร้อน” ของ อบก. เป็นการรับรองผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ได้ตามเกณฑ์ที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกกำหนด จึงช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า นอกจากจะได้รับสินค้าที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัยแล้ว ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
นอกจากการจัดทำฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์และฉลากลดโลกร้อนแล้ว ซีพีเอฟ ยังได้ร่วมกับ อบก. ดำเนินโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้สถานประกอบการซีพีเอฟจำนวน 25 แห่ง ได้รับประกาศนียบัตรโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme: LESS) โดยการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ทำให้บริษัทสามารถกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ โดยรวมได้ 3,052 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ในปีที่ผ่านมา